สคล.เดินหน้าหนุนโครงการ “โรงเรียนคำพ่อสอน”

ตั้งเป้าสร้างครูและเด็กคุณภาพขยายถึงครอบครัวสู่การเปลี่ยนแปลงยั่งยืน

กว่า 9 ปีในการดำเนิน โครงการโรงเรียนคำพ่อสอน ของสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) เกิดขึ้นจากแรงบันดาลใจโดยการน้อมนำกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 มาเป็นแนวทางในการพัฒนาการศึกษาและการสร้างคนดีสู่สังคม โครงการนี้มุ่งเน้นให้ครูเป็นผู้นำในการถ่ายทอดคุณธรรมและความรู้แก่เด็กนักเรียน ผ่านกระบวนการเรียนรู้ที่ไม่เพียงแค่เน้นวิชาการ แต่ยังส่งเสริมการพัฒนาจิตใจ การใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า และการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครู นักเรียน และชุมชน 

นางสาวอภิษามะหะมาน ผู้ประสานงานโครงการเครือข่ายโรงเรียนคำพ่อสอน สคล. กล่าวว่า โครงการฯนี้ เป็นการต่อยอดจากกิจกรรม โพธิสัตว์น้อย ลูกขอพ่อแม่เลิกเหล้า ซึ่งดำเนินมาถึงปีที่ 16 ในปีนี้ ต่อมาได้ขยายการทำงานโดยครูมีส่วนร่วมมากขึ้นพร้อมมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ ครูดีไม่มีอบายมุข ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ 13 ภายใต้การดำเนินกิจกรรมโพธิสัตว์น้อยและครูดีไม่มีอบายมุขนั้น มุ่งหวังจะให้ครูเป็นฐานเรื่องการเรียนการสอนการเป็นแบบอย่างที่ดี โดยน้อมนำตามกระแสพระราชดำรัส ในหลวงรัชกาลที่ 9 และนำมาสู่ดำเนินโครงการโรงเรียนคำพ่อสอนขึ้น โดยยึดหลัก คือ “ให้ครูรักเด็ก ให้เด็กรักครู” ซึ่งจะเป็นการเปิดประตูใจที่ยอดเยี่ยมด่านแรก เพราะหากเด็กรักครู ครูบอกอะไรเด็กจะเชื่อฟัง ขณะเดียวกันเมื่อครูรักเด็ก ครูจะให้อภัยเด็กเช่นกัน 

เริ่มต้นจากครูสู่เด็กขยายไปถึงบ้าน

นายภิญโญโสตถิฤทธิ์ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านคลองกกสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชุมพรเขต 2 กล่าวว่า ได้นำแนวคิดจากโครงการนี้มาประยุกต์ใช้ในโรงเรียนหลังจากเข้าร่วมการอบรม ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาครูและนักเรียนให้เป็นมากกว่าการศึกษาในห้องเรียน โดยเน้นให้ครูอบรมจิตใจเด็กด้วยความรัก ความเข้าใจ และเป็นตัวอย่างที่ดี ผ่านการดำเนินงานของ “ครูดีไม่มีอบายมุข” ซึ่งเป็นแกนนำสำคัญในการสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่เปี่ยมด้วยคุณธรรม

โครงการโรงเรียนคำพ่อสอน เป็นการเรียนรู้ที่ไม่ได้มีในตำรา ในโครงการจะเริ่มต้นจากความรัก “ให้ครูรักเด็ก” ในแนวทางนี้ ครูก็จะมีการปรับตัว ปรับพฤติกรรมตนเอง ต้องเตรียมความพร้อมที่จะนำเข้าสู่การเรียนรู้ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสังคมปัจจุบันครอบครัวอาจไม่ได้สมบูรณ์แบบ 100 % บางคนต้องอยู่กับคุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย และ คุณครูคือพ่อ แม่คนที่ 2 ที่จะคอยอบรมบ่มนิสัยให้พวกเขา เพราะฉะนั้นคุณครูต้องมีใจรักเด็ก โรงเรียน คือบ้านหลังที่ 2 โครงการนี้ ทำให้ครูมีการเปลี่ยนแปลง ใช้คำพูดในเชิงบวก ฟังจากเหตุและผลด้วยความเข้าใจและต้องการช่วยเหลือแก้ปัญหา เหล่านี้เป็นสิ่งที่ทำให้เด็กเข้าหา กล้าพูดคุย และเชื่อฟัง ทำให้คุณครูทำงานง่ายขึ้น  กิจกรรมในตอนเช้า คือพลังบวก  เช่น การชื่นชมตัวเองเห็นคุณค่าตัวเอง เป็นหลักจิตวิทยาที่ได้พูด ซึ่งเป็นการบันทึกในทุก ๆ วัน นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเชิงบวกของพวกเขาได้ 

กิจกรรมที่สร้างความเปลี่ยนแปลง

นางสาวเยาวดีย้อยสวัสดิ์ หรือ “ครูหนู” แกนนำโครงการฯ กล่าวว่า กิจกรรมของโรงเรียนคำพ่อสอน ในระยะเวลา 1 ปี จะสอดคล้องกับเทศกาลของปี โดยกิจกรรมจะให้ความรักก่อนให้ความรู้ โดยโรงเรียน จะเปิดเพลง “คำพ่อสอน” ทุกเช้าเพื่อปลูกฝังจิตสำนึกและสร้างบรรยากาศเชิงบวก เด็ก ๆ จะร่วมกันทำความสะอาดโรงเรียนก่อนเข้าเรียน มีกิจกรรมหน้าเสาธง “กอด” ครูกอดเด็กๆเพื่อสร้างความอบอุ่นและความใกล้ชิด ยังมีการรออกกำลังกายเบา ๆ (Slow Jogging) เพื่อกระตุ้นพลังงานก่อนเรียน  ในช่วงรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษา เด็ก ๆ จะร่วมกิจกรรมส่งจม.สื่อรัก ขอให้ลด ละ เลิกเหล้า ต่อด้วย ขอให้พ่อแม่เลิกเหล้าเลิกเบียร์อบายมุขในวันเกิดทุกสัปดาห์  หรือ ในช่วงสิ้นปี เด็ก ๆ จะเขียนเรียงความเกี่ยวกับตัวเองว่าจะปรับปรุงพัฒนาและตัวเองพัฒนาตัวเองอย่างไรบ้าง ชื่นชมตัวเองที่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับอบายมุขเป็นเด็กดีของสังคม เป็นต้น  ซึ่งความคืบหน้าของผลลัพธ์ดีขึ้นเรื่อย ๆ 

ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดเจนใครเห็นต้องว้าว

นอกจากนี้ยังมี ห้องเรียนพ่อแม่ ที่อบรมผู้ปกครองเกี่ยวกับการใช้หลักจิตวิทยาในการเลี้ยงดูบุตร ผ่านกิจกรรมที่สนุกและเข้าใจง่าย ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ปกครองเป็นอย่างมาก โดยพบว่าหลังเข้าร่วมกิจกรรมผู้ปกครองมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น 

นางสาวปริศนาพริกบางกา หรือ “ย่าเอี้ยง” ของน้องอาโป เล่าว่าหลังจากเข้าร่วม “ห้องเรียนพ่อแม่” ตนเริ่มเข้าใจถึงบทบาทของตนเองในการเลี้ยงหลานสาวมากขึ้น จากเดิมที่มีพฤติกรรมดื่มเหล้าและใช้คำพูดรุนแรง กลับกลายเป็นย่าที่ตั้งใจเลิกเหล้าเพื่อหลานสาว ทำให้ความสัมพันธ์ภายในครอบครัวดีขึ้น หลานสาวเองก็มีความสุขและใกล้ชิดกับย่ามากขึ้นด้วย

โครงการโรงเรียนคำพ่อสอนไม่ได้เพียงเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของครูและนักเรียนแต่ยังส่งผลต่อผู้ปกครองและชุมชนโดยรอบโรงเรียนบ้านคลองกกนับเป็นตัวอย่างของการใช้การศึกษาเป็นเครื่องมือในการพัฒนาคนอย่างรอบด้านทั้งในด้านวิชาการและจิตใจสร้างสรรค์สังคมที่เข้มแข็งและยั่งยืนต่อไป

กองบรรณาธิการ SDNThailand