ยกระดับโรงเรียนนำร่อง “ธรรมนูญสถานศึกษาปลอดภัย-ปลอดเหล้า-ปลอดปัจจัยเสี่ยง” สู่โมเดล งานปกป้องเด็ก-เยาวชน เมืองคอน

ยกระดับโรงเรียนนำร่อง “ธรรมนูญสถานศึกษาปลอดภัย-ปลอดเหล้า-ปลอดปัจจัยเสี่ยง” สู่โมเดล งานปกป้องเด็ก-เยาวชน เมืองคอน วันที่ 4 กันยายน 2568 ณ. ห้องประชุม โรงเรียนวัดเขาขุนพนม ตำบลบ้านเกาะ อำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ หรือ สช. ร่วมกับแกนนำเครือข่ายนักสานพลังสร้างสุขภาวะ ( คนส.) รุ่น 3 ภาคใต้ จัดเวทีประชุมเชิงปฎิบัติการ เสริมสร้างการประเมินผลเพื่อการพัฒนา กรณีศึกษาการขับเคลื่อนธรรมนูญสถานศึกษาปลอดภัย จังหวัดนครศรีธรรมราช ในกลุ่มเป้าหมาย 5 โรงเรียนนำร่องที่ประกาศขับเคลื่อนธรรมนูญโรงเรียนปลอดปัจจัยเสี่ยงเมื่อต้นปี 2568 ประกอบด้วยโรงเรียนวัดเขาขุนพนม / โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 8 / โรงเรียนอัลมูวาห์ฮิดีน / โรงเรียนอินทร์ธานี และโรงเรียนร่อนพิบูลย์เกียรติวสุนธราภิวัฒก์ รวมถึงมีองค์กรร่วมขับเคลื่อนการปกป้องเด็กเยาวชนจากปัจจัยเสี่ยง 25 องค์กรในจังหวัดนครศรีธรรมราชร่วมแลกเปลี่ยนและเสนอแนะข้อมูลหลังจากร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ การขับเคลื่อนธรรมนูญสถานศึกษาปลอดภัย ป้องกันปัจจัยเสี่ยง เหล้า – บุหรี่ – บุหรี่ไฟฟ้า – น้ำกระท่อม – สารเสพติด – การพนันออนไลน์ – อุบัติเหตุ และ อนามัยเจริญพันธ์ ในเด็กและเยาวชนจังหวันนครศรีธรรมราช นายองอาจ พรหมมงคล ผู้ประสานงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคใต้ตอนบนและนายกสมาคมเพื่อนเยาวชน และพัฒนาสังคมภาคใต้ตอนบน ในฐานะองค์กรผู้จุดประกายและประสานขับเคลื่อน ธรรมนูญโรงเรียนปลอดภัยจากปัจจัยเสี่ยง กล่าวว่า ในปี2566-2567 ทางสำนักงานสถิติแห่งชาติสำรวจข้อมูลพฤติกรรมการดื่ม/สูบ พบว่าจังหวัดนครศรีธรรมราชประชากรดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ร้อยละ 20.9 และสูบบุหรี่ 25.6% ติดอันดับต้นๆของประเทศและทางศึกษาธิการจังหวัดร่วมกับเครือข่ายงดเหล้าจังหวัดนครศรีธรรมราชสำรวจ 63โรงเรียนในกลุ่มนักเรียนอายุ13-15ปีใน18อำเภอจำนวน 1,800 กว่าตัวอย่างพบว่า นักเรียนม.ต้นเคยดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถึง 38.2 % ดื่มจนเมาและครองสติไม่ได้ 10.3% ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลเยาวชนเป็นโรคทางเพศสัมพันธ์สูงโดยเฉพาะ HIV จึงเป็นที่มาของการจับมือ 25 องค์กรร่วมลงนามปกป้องเยาวชนจากปัจจัยเสี่ยงรวมถึงมีการขับเคลื่อนงานอย่างต่อเนื่องในหลากหลายรูปแบบเช่น การทำหลักสูตรให้ความรู้ในโรงเรียน การบันทึกลงร่วมร่วมกับผู้นำชุมชนและผู้ประกอบการรอบโรงเรียน เป็นต้น โดยใช้โรงเรียนเป็นศูนย์กลางและใช้ชุมชนเป็นสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยในการปกป้องนักเรียน ในปี 2568 ทางเครือข่ายจึงสำรวจกลุ่มตัวอย่างนักเรียนเพื่อคัดกรองพฤติกรรมกลุ่มเสี่ยงใน 5 โรงเรียนที่ขับเคลื่อนเข้มข้นภายใต้เครื่องธรรมนูญสถานศึกษาปลอดภัยจากปัจจัยเสี่ยง ในกลุ่มอายุเดิมพบว่านักเรียนที่เคยดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 8.4% และเคยสูบบุหรี่ 11.9% ซึ่งมั่นใจว่าจะลดจำนวนนักดื่มและนักสูบหน้าใหม่ได้แน่นอน ช่วงท้ายเครือข่ายนักสานพลังสุขภาวะได้สรุปการขับเคลื่อนที่สำคัญที่ควรดำเนินการต่อ 1. การพัฒนาระบบการประเมินผล- ใช้แนวคิด Development Evaluation เป็นเครื่องมือหลักในการประเมินผลการขับเคลื่อนธรรมนูญสถานศึกษา- สร้างกลไกการติดตาม ประเมินผล และปรับปรุงแผนงานอย่างต่อเนื่อง2. การขยายผลและการเชื่อมโยงเครือข่าย- ขยายผลจาก 5 โรงเรียนนำร่องไปสู่โรงเรียนอื่นๆ ในจังหวัดนครศรีธรรมราช- เสริมสร้างความแข็งแกร่งของเคลื่อนข่าย 25 องค์กรร่วมขับเคลื่อน 3. การพัฒนาขีดความสามารถ- เสริมสร้างทักษะการประเมินเพื่อการพัฒนาให้แก่บุคลากรและเครือข่าย- พัฒนาเครื่องมือและแนวทางการประเมินที่เหมาะสมกับบริบทพื้นที่4. การขับเคลื่อนเชิงนโยบาย- ยกระดับการขับเคลื่อนจากพื้นที่รูปธรรมสู่การขับเคลื่อนเชิงนโยบาย- เชื่อมโยงการทำงานในระดับจังหวัด ภูมิภาค และประเทศ5. การลดปัจจัยเสี่ยงอย่างยั่งยืน- ใช้ข้อมูลการสำรวจพฤติกรรมเด็กกลุ่มเสี่ยงเป็นฐานในการวางแผนและปรับกลยุทธ์- สร้างกลไกการป้องกันและแก้ไขปัญหาในระยะยาว 6. การสร้างการมีส่วนร่วม- ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนธรรมนูญสถานศึกษา- พัฒนากลไกการสื่อสารและประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความรู้และความเข้าใจทั้งนี้ทิศทาง การขับเคลื่อนโรงเรียนต้นแบบจะเสนอเป็นโมเดล ในสมัชชาสุขภาพจังหวัดนครศรีธรรมราชเพื่อยกระดับสู่นโยบายสาธารณะและขยายผลสู่เครือข่ายในโรงเรียนและจังหวัดอื่นๆต่อไป