Author: ศุภกิตติ์ คุณา

  • ม.เชียงใหม่ รณรงค์รับน้องขึ้นดอย’65 ปลอดเหล้า

    ม.เชียงใหม่ รณรงค์รับน้องขึ้นดอย’65 ปลอดเหล้า

    มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สืบสานประเพณี “รับน้องขึ้นดอย” “ลูกจ๊างขึ้นดอย ปิ๊กฮอยศรัทธา เหมันต์ไหว้สา พระธาตุเจ้าดอยสุเทพ” นำนักศึกษาชั้นปีที่ 1-3 กว่า 18,000 คน เดินจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ขึ้นไปนมัสการพระบรมธาตุดอยสุเทพ ใน วันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2565

    ประเพณีการนำนักศึกษาใหม่ไปนมัสการพระบรมธาตุดอยสุเทพ หรือ “ประเพณีรับน้องขึ้นดอย” เป็นประเพณีที่ดีงามที่นักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ร่วมกันจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในปี พ.ศ. 2507 เป็นต้นมา จวบจนปัจจุบัน

    สำหรับปี 2565 นี้ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดกิจกรรมขึ้นในวันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2565 ด้วยแนวคิดหลัก “ลูกจ๊างขึ้นดอย ปิ๊กฮอยศรัทธา เหมันต์ไหว้สา พระธาตุเจ้าดอยสุเทพ” โดยนำนักศึกษาชั้นปีที่ 1-3 เดินขึ้นไปนมัสการพระบรมธาตุดอยสุเทพ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่ และศูนย์รวมจิตใจของชาวล้านนา รวมระยะทางกว่า 14 กิโลเมตร เพื่อความเป็นสิริมงคลและเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้สานต่อประเพณีอันดีงาม

    ประเพณีรับน้องขึ้นดอย ปี 2565 เริ่มตั้งแต่เวลา 04.00 น. ขบวนเสลี่ยงช้างแก้ว ออกเดินนำขบวนจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยมีนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์เป็นคณะผู้อัญเชิญ ตามด้วยคณะต่างๆ เมื่อเวลา 06:30 น. นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวต้อนรับ นางสาวศุทธินี ทัพผดุง ตัวแทนสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวรายงาน ศาสตราจารย์ ดร.นพ.พงษ์รักษ์ ศรีบัณฑิตมงคล อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประธานในพิธี กล่าวเปิดงานและลั่นฆ้องชัยถือว่าประเพณีลูกช้างขึ้นดอยนำน้องใหม่ไปนมัสการพระบรมธาตุดอยสุเทพได้เริ่มขึ้นแล้วอย่างเป็นทางการ จากนั้น เวลา 07.00 น. ขบวนรับน้องขึ้นดอย มช. ได้เริ่มเคลื่อนออกจากประตูหน้ามหาวิทยาลัย ประกอบด้วย ขบวนมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สมาคมนักศึกษาเก่า และคณะต่างๆตามลำดับ

    ทั้งนี้ประเพณีรับน้องขึ้นดอย สภานักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รณรงค์ให้ประเพณีรับน้องขึ้นดอยปีนี้มาร่วมใจห่างไกลแอลกอฮอล์ เพื่อซึมซับการรับน้องประเพณีรับน้องขึ้นดอย จึงได้ขอความร่วมมืองดดื่มแอลกอฮอล์และงดจำหน่ายแอลกอฮอล์ทุกชนิด และร่วมกับอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 (จังหวัดเชียงใหม่) ร่วมตั้งด่านจุดสกัดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และจัดทำป้ายประกาศประชาสัมพันธ์ โดยการรับน้องขึ้นดอยปลอดเหล้า สโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้รณรงค์มาต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2555

    รับน้องขึ้นดอยเป็นกิจกรรมสำคัญที่มีพี่ๆ ศิษย์เก่ากลับมาระลึกถึงภาพความทรงจำกับเรื่องราวการรับน้องอย่างสร้างสรรค์ และร่วมให้กำลังใจน้องๆ ได้เดินขึ้นถึงเป้าหมายเพื่อนมัสการพระบรมธาตุดอยสุเทพ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่ และเป็นความประทับใจที่ชาว มช.

  • อำเภอแม่ใจ ประชุมขับเคลื่อนงานลดปัจจัยเสี่ยงของ พชอ.

    อำเภอแม่ใจ ประชุมขับเคลื่อนงานลดปัจจัยเสี่ยงของ พชอ.

    เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 เวลา 10:00 น. นายพีรัช จันธิมา นายอำเภอแม่ใจ จังหวัดพะเยา เป็นประธานเปิดประชุมคณะทำงานขับเคลื่อนงานลดปัจจัยเสี่ยงของการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) โดยมีนางลออ มหาวรรณศรี ผู้ประสานงานประชาคมงดเหล้าจังหวัดพะเยาเข้าร่วมประชุมครั้งนี้ โดยวาระการประชุมมีแนวทางการดำเนินงานจัดตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อขับเคลื่อนงานด้านการรณรงค์แก้ไขปัญหาการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบบบูรณาการและวางแผนการจัดทำแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ครอบคลุมทั้ง 6 ตำบล และ 7 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

    สำหรับอำเภอแม่ใจ จังหวัดพะเยา มีพื้นที่นำร่อง คือ ชุมชนบ้านเหล่าพัฒนา โดยมีการแผนขับเคลื่อนงานเหลียวหน้าแลหลัง ชุมชนลด ละเลิกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่ มีการเสวนากลุ่มจัดให้มีการทอดผ้าป่าออมสิน ออมบุญ สมทบทุนชมรมคนหัวใจเพชรตำบลบ้านเหล่า โดยมีวัตถุประสงค์ ชวน ช่วยชมเชียร์ มีการปรับแผนงานตามความเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายขึ้น เช่น การลดจำนวนคนมารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก การลงพื้นที่สร้างความเข้ากับกลุ่มแกนนำคนหัวใจเพชร กิจกรรมการโน้มน้าวจิตใจ ชวน ช่วย เชียร์

    นอกจากนี้อำเภอแม่ใจ ยังมีแผนในดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง เช่น กิจกรรมการลงมือทำในชุมชน รณรงค์อย่างต่อเนื่อง, กิจกรรมให้ความช่วยเหลือ เยี่ยมให้กำลังใจ ผู้ด้อยโอกาส ผู้ป่วยติดเตียง, กิจกรรมกับคนแวดล้อม-สิ่งแวดล้อม มาตรการชุมชน การผลักดันให้มีนโยบายงดเหล้าเข้าพรรษาในพื้นที่ และการบูรณาการความร่วมมือส่วนราชการ หน่วยงาน และสถานประกอบการ

  • คนหัวใจเพชรเชียงราย พัฒนาศักยภาพสร้างอาชีพเชื่อมเครือข่ายชุมชน รุ่น 2

    คนหัวใจเพชรเชียงราย พัฒนาศักยภาพสร้างอาชีพเชื่อมเครือข่ายชุมชน รุ่น 2

    ชมรมคนหัวใจเพชร จ.เชียงราย พัฒนาศักยภาพการใช้ชุมชนเป็นฐานจึงเป็นจุดที่สามารถยกระดับการประกอบ อาชีพ ให้แก่กลุ่มเป้าหมาย โดยจัดให้กระบวนการ เสริมศักยภาพ และใช้ทุนของชุมชน ในการพัฒนาอาชีพ มีการกําหนด แผนธุรกิจ และแผนกําลังคนที่เหมาะสม โดย ขั้นแรกให้ชุมชน สามารถพึ่งพา ภายในชุมชน

    เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2565 เครือข่ายองค์กรงดเหล้าจังหวัดเชียงราย ร่วมกับศูนย์ประสานงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคเหนือตอนบน จัดกิจกรรมการพัฒนาศักยภาพคนหัวใจเพชร คนหัวใจหิน คนหัวใจเหล็ก “สู่แนวคิดตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” เลิกเหล้าสร้างอาชีพ เรื่องการเพาะเลี้ยงเห็ด ณ ศูนย์การเรียนรู้ชมรมหัวใจเพชรบ้านแม่แก้วกลาง อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย แก่เครือข่ายชมรมคนหัวใจเพชรพื้นที่จังหวัดเชียงราย ประกอบด้วย เครือข่ายอำเภอพาน อำเภอเวียงชัย อำเภอแม่จัน อำเภอแม่สายและอำเภอเทิง โดยมีผู้เข้าร่วมการอบรมฯ จำนวน 65 คน เพื่อนำประสบการณ์และความรู้ที่ได้ไปต่อยอดสร้างคลังอาหารในครัวเรือนและขยายสู่อาชีพเสริมสร้างรายได้

    ในช่วงที่ประเทศไทยได้รับผลกระทบของสถานการณ์ COVID-19 ซึ่งมีผลต่อระบบเศรษฐกิจ และประชาชนทั่วไป ร่วมถึงแหล่งเรียนรู้ชุมชนคนสู้ ภายใต้การสนับสนุนจากสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) ได้ตระหนักถึงความลำบากของพื้นที่โดยเฉพาะชมรมคนหัวใจเพชร ที่ประสบกับปัญหาการขาดรายได้ อันมาจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น สินค้าจำหน่ายไม่ได้ จึงมีความจำเป็นที่ต้องอบรม ให้ความรู้ การประกอบอาชีพ และบรรเทาความเดือดร้อน ให้ชมรมให้มีช่องทางการเพิ่มรายได้ให้กับตนเอง “สร้างโอกาสเพื่อความยั่งยืน”

    SDN Thailand

  • ชุมชนสันทราย อ.ไชยปราการ พัฒนาอาชีพและนวัตกรรมที่ใช้ชุมชนเป็นฐาน

    ชุมชนสันทราย อ.ไชยปราการ พัฒนาอาชีพและนวัตกรรมที่ใช้ชุมชนเป็นฐาน

    เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2565 พระครูวรสุตเขต เจ้าอาวาสวัดสันทราย ต.ศรีดงเย็น อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ ได้กล่าวชี้แจงกิจกรรมการพัฒนาอาชีพและนวัตกรรมที่ใช้ชุมชนเป็นฐานกับสมาชิกที่เข้าร่วม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของกลุ่ม โดยเฉพาะในชุมชนมีทั้งหมด 4 กลุ่ม มีความพร้อมหลายด้านและมีกิจกรรมกลุ่มอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดการช่วยเหลือ ส่งเสริมการศึกษาเพื่อการพัฒนาอาชีพและนวัตกรรมที่ใช้ชุมชนเป็นฐาน เพื่อสร้างอาชีพและสร้างรายได้ของกลุ่มให้สามารถยกระดับการศึกษาเรียนรู้สู่การพัฒนาทักษะการเป็นผู้ประกอบการใหม่ กลุ่มมีฝีมือในชุมชนและสังคมที่เป็นไปตามศักยภาพและความต้องการ รวมถึงการสร้างต้นแบบ (Model) ผ่านการมีส่วนร่วมของภาคีส่วนต่างๆ ในการยกระดับการเรียนรู้ตลอดชีวิตสู่การประกอบอาชีพ เพื่อนำไปสู่การต่อยอดขยายผลในระดับท้องถิ่น

    การใช้ชุมชนเป็นฐานจึงเป็นจุดที่สามารถยกระดับการประกอบ อาชีพ ให้แก่กลุ่มเป้าหมาย โดยจัดให้กระบวนการ เสริมศักยภาพ และใช้ทุนของชุมชน ในการพัฒนาอาชีพ มีการกําหนด แผนธุรกิจ และแผนกําลังคนที่เหมาะสม โดย ขั้นแรกให้ชุมชน สามารถพึ่งพาภายในชุมชนก่อนนําไปสู่การแลกเปลี่ยนระหว่างชุมชนการส่งขายภายนอกชุมชน

  • “ต๋ามผางปะติ๊ด ส่องฟ้า ฮักษาเมือง” ถวายเป็นพุทธบูชายี่เป็งเชียงใหม่

    “ต๋ามผางปะติ๊ด ส่องฟ้า ฮักษาเมือง” ถวายเป็นพุทธบูชายี่เป็งเชียงใหม่

    เครือข่ายชุมชนเมืองรักษ์เชียงใหม่ และภาคี หน่วงงาน องค์กรในพื้นที่เขตเมืองเชียงใหม่ ร่วมจัดกิจกรรม “ต๋ามผางปะตี้ด ส่องฟ้า ฮักษาเมือง” ปีที่ 11 จำนวน 10,000 ดวง บริเวณ 4 มุมเมืองของตัวเมืองเชียงใหม่ ในช่วงเทศกาลวันลอยกระทงหรือยี่เป็งเชียงใหม่ โดยมีประชาชน นักเรียน นักศึกษา ได้ร่วมกันวางผางประตี้ดตามจุดต่าง ๆ ก่อนร่วมกันจุด เพื่อให้แสงเทียนส่องสว่างไสวไปทั่วเมืองเชียงใหม่ ถวายเป็นพุทธบูชาในห้วงเทศกาลยี่เป็งเชียงใหม่

    เครือข่ายชุมชนเมืองรักษ์เชียงใหม่ ร่วมกับเทศบาลนครเชียงใหม่ ฟื้นบ้านย่านเวียง และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) “ต๋ามผางปะติ๊ด ส่องฟ้า ฮักษาเมือง” ปีที่ 11 ระหว่างวันที่ 7-9 พฤศจิกายน 2565 ณ บริเวณลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ จ.เชียงใหม่ และ 4 มุมคูเมืองเชียงใหม่ โดยกิจกรรมนี้ ทางเครือข่ายชุมชนเมืองรักษ์เชียงใหม่ พร้อมชุมชุนต่าง ๆ วัด, สถาบันการศึกษา, ภาคีเครือข่ายหลายภาคส่วน จัดขึ้นเพื่อเป็นการส่งเสริมและอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีล้านนา ที่มีความเชื่อว่าการจุดผางประทีปเป็นพุทธบูชา รวมทั้งแสดงความสำนึกบุญคุณและขอขมาสิ่งต่าง ๆ และค่านิยมในงานบุญประเพณีที่ร่วมสมัย มีความปลอดภัย เพื่อเป็นทางเลือกของการลดอุบัติเหตุจากประทัดยักษ์ และการปล่อยโคมลอย

    เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2565 นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีเปิดงานต๋ามผางปะตี๊ด ส่องฟ้า ฮักษาเมือง ในงานประเพณีเดือนยี่เป็งเชียงใหม่ ประจำปี 2565 โดยมีนายอัศนี บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ร่วมเป็นเกียรติในกิจกรรม ณ ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ จ.เชียงใหม่

    “ต๋ามผางปะตี้ด” แปลว่า การจุดประทีป บางพื้นที่ก็เรียกปะตี๊ป ทั้งนี้ผางประตี้ดที่ใช้จุดในช่วงการจัดกิจกรรมนั้น มาจากการร่วมแรงร่วมใจของชาวชุมชน รวมทั้งเด็ก เยาวชน นักเรียน นักศึกษา และประชาชนที่สนใจ ตั้งแต่เริ่มต้นทุกขั้นตอนจนแล้วเสร็จ โดยทำการจัดกิจกรรมหยอดผางปะตี้ดขึ้นก่อนวันงาน สำหรับผางปะตี้ดหรือประทีป ที่ทางเครือข่ายชุมชนเมืองรักษ์เชียงใหม่นำมาใช้ มีขนาด 3 นิ้วครึ่ง โดยสามารถจุดได้ 5-6 ชั่วโมง จำนวน 10,000 ดวง นอกจากนี้ยังมีผางประทีปขนาดต่างๆ ที่จัดเตรียมไว้อีกรวมหลายหมื่นดวง เพื่อร่วมกันจุดบูชาเมืองเพื่อให้สว่างไสวไปทั่วทั้งเมืองเชียงใหม่ในช่วงงานประเพณียี่เป็ง

    ตลอดระยะเวลาของกิจกรรม เครือข่ายชุมชนเมืองรักษ์เชียงใหม่ ยังมีการฟ้อนเทียนบูชาเมือง เทศน์อานิสงส์ผางประทีป ซึ่งเป็นกิจกรรมต่อเนื่องที่ทางเครือข่ายจัดทำทุกปี โดยมีการจัดอบรมซ้อมฟ้อนเล็บ ฟ้อนเทียน ซึ่งโดยในปีนี้มีผู้ที่สนใจเข้าร่วมจำนวนมาก โดยเปิดสอนตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการสืบทอดศิลปวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงามสู่รุ่นลูกรุ่นหลาน


    ข่าว : ศุภกิตติ์ คุณา
    ภาพประกอบ : วิรัตน์ ไชยชนะ, วิทยาลัยอาชีวะเชียงใหม่, เทศบาลนครเชียงใหม่, ศุภกิตติ์ คุณา

  • อำเภอแม่จัน จัดยกย่องเชิดชูคนหัวใจเพชรและงดเหล้าครบพรรษา ปี 65

    อำเภอแม่จัน จัดยกย่องเชิดชูคนหัวใจเพชรและงดเหล้าครบพรรษา ปี 65

    คณะสงฆ์อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ร่วมกับประชาคมงดเหล้าจังหวัดเชียงราย และศูนย์ประสานงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคเหนือตอนบน จัดกิจกรรมคุณัปปกาสินียบัตรยกย่อง เชิดชูคนหัวใจเพชร และงดเหล้าครบพรรษา ประจำปี 2565

    เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 ณ วัดป่ายาง ตำบลศรีค้ำ อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย คณะสงฆ์อำเภอแม่จัน ร่วมประชาคมงดเหล้าจังหวัดเชียงราย และศูนย์ประสานงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคเหนือตอนบน จัดกิจกรรมพิธีคุณัปปกาสินียบัตรยกย่อง เชิดชูคนหัวใจเพชร และงดเหล้าครบพรรษา ในปี 2565 ซึ่งมีคนหัวใจเพชรที่สามารถเลิกเหล้าตลอดชีวิตได้จำนวน 30 คน และคนงดเหล้าเข้าพรรษาจำนวน 150 คน โดยคณะสงฆ์ ฝ่ายปกครอง เครือข่ายหมู่บ้านรักษาศีล 5 ร่วมกันขับเคลื่อนและสามารถที่จะรณรงค์ในการงดเหล้าสำหรับคนที่ดื่มเหล้าอย่างหนักตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จนขณะนี้สามารถที่จะดำเนินการทำให้ผู้ที่ดื่มเหล้าเป็นประจำงดการดื่มอย่างเด็ดขาดทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น ครอบครัวมีความสุข ลดการทะเลาะ ลดการเกิดอุบัติเหตุอย่างเป็นรูปธรรม

    สำหรับการดำเนินงานของตำบลศรีค้ำใช้กลวิธีมาตรการชุมชนนโยบายสาธารณะ เพื่อขับเคลื่อนงาน ระดับตำบลเพื่อเป็นการยกระดับการทำงาน สร้างความยั่งยืนในพื้นที่ประกอบด้วย ต้นแบบในการขับเคลื่อนงาน และมีกิจกรรมสร้างสรรค์อย่างต่อเนื่อง มีคณะทำงานขับเคลื่อนระดับตำบล พชต.และให้มีกิจกรรมรณรงค์อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการส่งเสริมงานบุญประเพณีปลอดเหล้าและทำข้อตกลงร่วมกัน เพื่อลดอุบัติเหตุ นอกจากนี้ระดับปกครองยังได้ทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำท้องถิ่น โดยให้ประเพณีเข้าพรรษาเป็นการสร้างวาระระดับอำเภอ พชอ. เพื่อขับเคลื่อนงานลดปัจจัยเสี่ยงส่งเสริมให้ผู้นำเป็นต้นแบบ รณรงค์ในช่วงเทศกาลสำคัญๆ ร่วมกับท้องถิ่น