Author: Joe peerapat

  • นักวิ่งกว่า 500 ชีวิต ร่วมพิชิตประวัติศาสตร์ขุมเหมืองแห่งตำนาน ต.นาขา อ.หลังสวน จ.ชุมพร

    นักวิ่งกว่า 500 ชีวิต ร่วมพิชิตประวัติศาสตร์ขุมเหมืองแห่งตำนาน ต.นาขา อ.หลังสวน จ.ชุมพร

               เมื่อวันที่ 24 - 25 ธันวาคม 2565 ชุมชนศูนย์เรียนรู้งดเหล้าลดปัจจัยเสี่ยง หรือ ชุมชนสู้เหล้าจังหวัดชุมพร ร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่าย จัดกิจกรรมวิ่งเพื่อสุขภาพ โดยเชิญชวนคนในพื้นที่และบุคคลที่รักสุขภาพที่สนใจร่วมกิจกรรมวิ่งตามรอยประวัติศาสตร์การทำเหมืองแร่
    นางสาวแสงนภา หลีรัตนะ
                 โดยนางสาวแสงนภา หลีรัตนะ หรือว่า “พี่สาว” ได้เล่าว่า พื้นที่ที่จัดงานนี้เรียกว่า “บ้านในเหมือง” หรือ “เหมืองในหูด” ซึ่งมีประวัติศาสตร์การทำเหมืองแร่มานานกว่า 109 ปี และเป็นพื้นที่ที่มีความเจริญเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีชาวต่างชาติเข้ามาทำเหมืองแร่ จนถึงปีพศ. 2538 แร่ได้หมดลง ชาวบ้านจึงต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตจากการเป็นคนงานในเหมืองแร่สู่การเป็นเกษตรกร เมื่อวันเวลาผ่านไปชาวบ้านในพื้นที่กลัวว่า เด็กรุ่นหลังจะไม่ทราบประวัติความเป็นมาของบ้านเกิดตนเอง และไม่เกิดสำนึกรักถิ่นบ้านเกิด ทางชุมชนเห็นร่วมกันว่าอยากให้เด็กๆได้เรียนรู้ประวัติความเป็นมาของบ้านเกิดตนเอง โดยการฟื้นประวัติศาสตร์ขึ้นมาอีกครั้งผ่านการทำพิพิธภัณฑ์เหมืองแร่ โดยให้เห็นวิถีชีวิตของคนรุ่นปู่ย่า ตายาย สมัยยังมีการทำเหมืองแร่ในพื้นที่นี้อยู่ จึงมีการจัดงาน “วิ่งขุมเหมือง เมืองแห่งตำนาน” เพื่อระดมทุนในการสร้างพิพิธภัณฑ์เหมืองแร่ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ชุมชน การสร้างสุขภาพชุมชน และสร้างจิตสำนึกรักบ้านเกิด
    
                 ซึ่งในวันที่ 24 ธันวาคม 2565 นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เป็นประทานในพิธีเปิดงาน“วิ่งขุมเหมือง เมืองแห่งตำนาน” ซึ่งภายในงานจะมีบูธประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการทำเหมืองแร่ มีการสาธิตการ "ร่อนแร่"

    มีการสาธิตการ “ร่อนแร่”

    มีการแสดงล่องแม่ปิงและวอนลมฝากรัก จากชาวบ้านและนักศึกษาฝึกงานจาก ต.เขาค่าย อ.สวี จ.ชุมพร

    มีการแสดงจากนักศึกษาฝึกงานจาก ต.นาขา อ.หลังสวน จ.ชุมพร
    

    และกิจกรรมสร้างสรรค์จากเด็กและเยาวชนในพื้นที่

    นายนพพร อุสิทธิ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร
              และเมื่อเวลา 06.09 น. วันที่ 25 ธันวาคม 2565 นายนพพร อุสิทธิ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร เป็นประธานในพิธีปล่อยตัวนักวิ่ง กิจกรรม“วิ่งขุมเหมือง เมืองแห่งตำนาน” จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 1 โดยมีนักวิ่งเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 500 คน
              โดยการจัดงานครั้งนี้ช่วยให้คนในพื้นตื่นตัวและส่งต่อประวัติศาสตร์การทำเหมืองแร่ให้กับเด็กๆรุ่นหลัง การสร้างสุขภาพที่ดีผ่านกิจกรรมวิ่ง การสร้างงานสร้างอาชีพ และเสริมการท่องเที่ยวให้เกิดขึ้นกับคนในพื้นที่ในอนาคต และทำให้ชุมชนสู้เหล้า หรือศูนย์เรียนรู้งดเหล้าลดปัจจัยเสี่ยงเป็นที่รู้จักมากขึ้น
  • องค์กรขับเคลื่อนสุขภาวะภาคใต้ตอนบนจับมือประกาศข้อตกลงธรรมนูญตำบลงดเหล้า-ลดปัจจัยเสี่ยง 8 ชุมชนนำร่องเพื่อปกป้องเด็ก-เยาวชน ระดับภูมิภาค

    องค์กรขับเคลื่อนสุขภาวะภาคใต้ตอนบนจับมือประกาศข้อตกลงธรรมนูญตำบลงดเหล้า-ลดปัจจัยเสี่ยง 8 ชุมชนนำร่องเพื่อปกป้องเด็ก-เยาวชน ระดับภูมิภาค

         วันที่ 15 ธันวาคม 2565 องค์กรขับเคลื่อนงานสุขภาวะและภาคงานวิชาการ 4 องค์กรร่วมกับ 8 ชุมชนจาก 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบนจัดเวทีประกาศข้อตกลงร่วมเพื่อทำธรรมนูญตำบลงดเหล้า-ลดปัจจัยเสี่ยงในการปกป้องเด็ก-เยาวชน ณ.ห้องประชุม SM3 คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎสุราษฎร์ธานี ซึ่งประกอบด้วย สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติหรือสช.ที่สนับสนุนด้านนโยบายธรรมนูญตำบลและการพัฒนาศักยภาพ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเขต 11 หรือ สปสช.สนับสนุนด้านกองทุนสุขภาพตำบลในการใช้เป็นช่องทางการขับเคลื่อนงานในพื้นที่ สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า หรือ สคล.สนับสนุนพื้นที่นำร่องชุมชนสู้เหล้าหรือศูนย์เรียนรู้งดเหล้าลดปัจจัยเสี่ยงที่ขับเคลื่อนงานงดเหล้ามาอย่างต่อเนื่อง และ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎสุราษฎร์ธานีที่สนับสนุนด้านงานวิชาการและติดตามหนุนเสริมรวมถึงการใช้พื้นที่ชุมชนเป็นแหล่งเรียนรู้ของนักศึกษา
         โดยมีผู้ช่วยศาตราจารย์ธาตรี คำแหง เป็นประธานกล่าวต้อนรับและร่วมลงนามภาคความร่วมมือ ส่วนด้านงานกองทุนสุขภาพตำบลมีนายธงชัย สิทธิโณ รองผู้อำนวยการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเขต 11 สุราษฎร์ธานีเป็นผู้ลงนาม ในส่วนสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ มีนายจารึกไชยรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักขับเคลื่อนนโยบายระดับพื้นที่ ร่วมลงนามและ สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้ามีนายวิษณุ ศรีทะวงศ์ ผู้จัดการแผนงานนโยบายสาธารณะเป็นผู้ลงนาม
           นายองอาจ พรหมมงคล ผู้ประสานงานเครือข่ายงดเหล้าภาคใต้ตอนบนกล่าวว่าการบันทึกความร่วมมือธรรมนูญตำบลงดเหล้า-ลดปัจจัยเสี่ยงในกลุ่มเด็ก-เยาวชน ฉบับนี้ จัดทำขึ้นเพื่อแสดงเจตนารมณ์ร่วมกัน เพื่อสร้างความร่วมมือของหน่วยงานที่ขับเคลื่อนด้านสุขภาพและพัฒนาศักยภาพเด็ก-เยาวชน ในภาคใต้ตอนบน โดยมุ่งเน้นการขับเคลื่อนตำบลงดเหล้า-ลดปัจจัยเสี่ยงภายในพื้นที่ตำบล ศูนย์เรียนรู้งดเหล้าลดปัจจัยเสี่ยง 8 ตำบลนำร่อง และยกระดับสู่ต้นแบบเพื่อการขยายผล ภายใต้กลไกของ องค์กรหน่วยงานที่ร่วมบันทึกความร่วมมือครั้งนี้ ซึ่งเครือข่ายงดเหล้าภาคใต้ตอนบนได้ดำเนินการพื้นที่ชุมชนสู้เหล้า หรือ ศูนย์เรียนรู้งดเหล้าลดปัจจัยเสี่ยง 16 ชุมชนจาก 7 จังหวัด และ ยกระดับสู่การทำงานเชิงนโยบาย ในการนี้ สำนักงานงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคใต้ตอนบน และหน่วยงานร่วมบันทึกข้อตกลงเห็นตรงกันว่าชุมชนดังนี้มีต้นทุนและเหมาะสมในการยกระดับการขับเคลื่อนในการนำร่องธรรมนูญตำบลงดเหล้าลดปัจจัยเสี่ยงคือ

    1. ต.นาขา อ.หลังสวน จ.ชุมพร

    2. ต.เขาค่าย อ.สวี จ.ชุมพร

    3. ต.บ้านเกาะ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช

    4. เทศบาลตำบลโพธ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช

    5. ตำบลบางวัน อ.คุระบุรี จ.พังงา

    6. เทศบาลตำบลเมืองเวียง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี

    7. เทศบาลตำบลกระบี่น้อย อ.เมือง จ.กระบี่

    8. ตำบลบางแก้ว อ.ละอุ่น จ.ระนอง

    โดยจะมีการสนับสนุนและอำนวยความสะดวก รวมถึงติดตามและสรุปบทเรียนด้านงานวิชาการ ในการปฎิบัติการของชุมชน ภายใต้กลไกธรรมนูญตำบลงดเหล้า-ลดปัจจัยเสี่ยง ในกลุ่มเด็ก-เยาวชน เพื่อยกระดับชุมชนสู่การขยายกับชุมชนอื่นๆเพื่อ ลดปัญหาปัจจัยเสี่ยงเหล้า-บุหรี่ –กัญชา และน้ำกระท่อม ต่อเด็ก-เยาวชนในภาคใต้ตอนบนต่อไป

           นางวารินรำไพ ศรีคำภา แกนนำชุมชนตำบลเขาค่าย อ.สวี จ.ชุมพร กล่าวเสริมว่าทางชุมชนได้ดำเนินการมาตั้งแต่พศ. 2558 เริ่มจากการชวนคนงดเหล้าเข้าพรรษา และขยายสู่ การจัดสภาพแวดล้อมและกติกาชุมชน เพื่อให้เด็ก-เยาวชนเข้าถึงเหล้าและปัจจัยเสี่ยงยากขึ้นเช่น ประกาศร้านค้าปลอดเหล้า งานบุญปลอดเหล้าเป็นต้น และเมื่อมีการประกาศธรรมนูญตำบลในการขับเคลื่อนงดเหล้า-ลดปัจจัยเสี่ยง ทางชุมชนก็จะเพิ่มความเข้มข้นขึ้นภายใต้ความร่วมมือของทุกภาคส่วนในชุมชน
  • ชุมชนบ้านเกาะ ชุมชนสู้เหล้าจังหวัดนครศรีธรรมราช ชวนคนหัวใจเหล็ก-คนหัวใจเพชรและผู้นำชุมชน เก็บขยะ เศษปฎิกูลในคลองเส้น นอกท่า-ท่าแพ ก่อนน้ำฤดูหลาก

    ชุมชนบ้านเกาะ ชุมชนสู้เหล้าจังหวัดนครศรีธรรมราช ชวนคนหัวใจเหล็ก-คนหัวใจเพชรและผู้นำชุมชน เก็บขยะ เศษปฎิกูลในคลองเส้น นอกท่า-ท่าแพ ก่อนน้ำฤดูหลาก

        วันที่ 19 พฤศจิกายน 2565 ชุมชนศูนย์เรียนรู้งดเหล้า ลดปัจจัยเสี่ยงตำบลบ้านเกาะ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช นำโดยกำนันอภินันท์ แสนเสนา ได้ระดมพลเก็บขยะและเศษปฎิกูลที่ขวางทางน้ำในคลองนอกท่า- ท่าแพ ซึ่งเป็นลำคลองที่ไหลมาจากน้ำตกพรหมโลก ซึ่งเมื่อถึงฤดูน้ำหลากจะมีน้ำที่สูงและเชี่ยวภายในลำคลอง ทางชุมชนจึงประสานแกนนำชุมชน และคนเลิกเหล้า ร่วมทำกิจกรรมอาสาครั้งนี้ โดยใช้เรือจำนวน 2 ลำ ล่องไปตามลำคลองและเก็บขยะขึ้นมาใส่ไว้ในถุงดำ เพื่อนำไปคัดแยกต่อ ซึ่งพบขยะจำนวนมากในลำคลอง และขยะเหล่านั้นขวางทางน้ำอยู่ ทำให้น้ำในคลองระบายได้ไม่ดี
        นายวรวุฒิ ประสานพจน์ ผู้ประสานงานเครือข่ายงดเหล้า จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า ตำบลบ้านเกาะเป็นชุมชน ศูนย์เรียนรู้งดเหล้าลดปัจจัยเสี่ยง หรือชุมชนสู้เหล้า ได้ดำเนินงาน ชวน-ช่วย-เชียร์คนเลิกเหล้ารวมถึงการจัดสภาพแวดล้อมให้ห่างไกลจาก เหล้า-เบียร์มาอย่างต่อเนื่อง และในช่วงมรสุมจะเป็นช่วงที่ ชุมชนตำบลบ้านเกาะจะต้องเผชิญกับน้ำหลาก ที่ไหลมาจากภูเขาหลวง ผ่านคลองนอกท่า-ท่าแพ และไหลลงทะเล ซึ่งลำคลองนี้จะเป็นลำคลองประวัติศาสตร์ที่มีเรื่องเล่าเกี่ยวข้องกับพระเจ้าตากสินมหาราช จึงผูกพันธ์กับชุมชน ทางแกนนำชุมชนจึงชวนคนเลิกเหล้า ทั้งคนหัวใจเหล็กที่เลิกเหล้าครอบพรรษาและเลิกต่อ รวมถึงคนหัวใจเพชรที่เลิกเหล้ามาไม่ต่ำกว่า 3 ปีมาร่วมกับผู้นำชุมชนในการเก็บขยะในลำคลองครั้งนี้
  • ชุมชนสู้เหล้าตำบลกระบี่น้อย จ.กระบี่ ต้อนรับการศึกษาดูงาน จากเครือข่ายมูลนิธิภูมิพลังชุมชนไทย

    ชุมชนสู้เหล้าตำบลกระบี่น้อย จ.กระบี่ ต้อนรับการศึกษาดูงาน จากเครือข่ายมูลนิธิภูมิพลังชุมชนไทย

             วันที่ 17 พฤศจิกายน 2565 มูลนิธิภูมิพลังชุมชนไทย โดยโครงการป้องกันปัญหาจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสารเสพติดในกลุ่มนักศึกษาพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เดินทางมาเรียนรู้และศึกษาดูงานในชุมชนศูนย์เรียนรู้งดเหล้าลดปัจจัยเสี่ยง ต.กระบี่น้อย อ.เมือง จ.กระบี่  โดยมีแกนนำชุมชนคนหัวใจเพชร ที่ผ่านการพัฒนาด้านกระบวนการชวน-เชียร์ให้เลิกเหล้า จนยกระดับเป็นแกนนำ ในการถ่ายทอดข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ ชวนคนเลิกเหล้าต่อ 
    ลุงบำรุง เอ่งฉ่วน
               ทั้งนี้ นายอิสสรา วีระสกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านนาตีน  ให้การต้อนรับในการศึกษาแลกเปลี่ยน และนำเสนอผลการดำเนินงานในชุมชนเป็นอย่างดี  พร้อมแกนนำ อสม. ที่เป็นแกนนำสำคัญในการ ขับเคลื่อน และดำเนินการ ชวน-เชียร์ เลิกเหล้าในชุมชนเข้าร่วม แลกเปลี่ยน อีกทั้ง ได้นำคณะนักศึกษาดูงานลงพื้นที่เยี่ยมบ้าน ลุงบำรุง เอ่งฉ่วน “คนเลิกเหล้าที่เปลี่ยนชีวิต”  และ ยกระดับเป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้ บทเรียนชีวิตสู่การเปลี่ยนแปลง แก่เด็ก-เยาวชน และเป็นแกนนำชวนคนเลิกเหล้า  โดยปัจจุบันลุงบำรุงเป็น "คนหัวใจเพชร" จังหวัดกระบี่ จึงสร้างความภาคภูมิใจและใด้รับความสนใจจากคณะศึกษาดูงานเป็นอย่างยิ่ง
  • 16 ชุมชนศูนย์เรียนรู้งดเหล้า ภาคใต้ตอนบน ชวนเหลียวหลังแลหน้า เพื่อยกระดับเป็นแหล่งเรียนรู้ชุมชนสู้เหล้า

    16 ชุมชนศูนย์เรียนรู้งดเหล้า ภาคใต้ตอนบน ชวนเหลียวหลังแลหน้า เพื่อยกระดับเป็นแหล่งเรียนรู้ชุมชนสู้เหล้า

    เมื่อวันที่ 13 ถึง 14 พฤศจิกายน 2565 ณ ปากตะโกโฮมสเตย์ ตำบลปากตะโกอำเภอทุ่งตะโก จังหวัดชุมพร สคล.ภาคใต้ตอนบน จัดเวทีสรุปบทเรียนหลังออกพรรษาพร้อมออกแบบแนวทางการขับเคลื่อนงานระดับชุมชนร้อยเรียงสู่ระดับจังหวัดจากชุมชนสู้เหล้า 16 ชุมชนจาก 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน ชวนมองภาพรวมชุมชนศูนย์เรียนรู้งดเหล้าและโครงสร้างเครือข่ายองค์กรงดเหล้า ทำความรู้จักงานชุมชนแต่ละพื้นที่ภายใต้รูปแบบ Design Thinking ที่เห็นกลไกลช่องทางโอกาสการบูรณาการ ปัญหา อุปสรรค และการแก้ไข และออกแบบแนวทางการขับเคลื่อนหลังออกพรรษา               
    โดยมีนายยงยุทธ จิตสำรวย นายอำเภอทุ่งตะโก นายอำเภอนักรณรงค์ภาคใต้ตอนบนร่วมพบปะพูดคุย ให้กำลังใจผู้ร่วมเวทีและคณะทำงาน ซึ่งมีทีมนักวิชาการ คณะอาจารย์คณะมนุษศาสตร์และสังคมศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ภาคีเครือข่ายสภาไทยPBS สมัชชาประชาชนภาคใต้ สมัชชาสุขภาพแห่งชาติ(สช.) คณะอนุกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุขพื้นฐานเขต 11 (อคม.) ร่วมแลกเปลี่ยนสถานการณ์สังคมสิ่งแวดล้อมด้านปัจจัยเสี่ยงที่กระทบต่อชุมชนโดยตรง
    และมีนายแพทย์สุเมธ ฉายศิริกุล หัวหน้ากลุ่มงานจิตเวชโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี บรรยายให้ความรู้ชี้แนะเทคนิคการรับมือกลุ่มจิตเภทในชุมชนขั้นพื้นฐาน และแลกเปลี่ยนเคสกรณีศึกษาที่มีปัญหาจากการติดสุรายาเสพติด/ผู้ป่วยโรคซึมเศร้าในชุมชน ทั้งนี้ทางเครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคใต้ตอนบนและชุมชนที่เคลื่อนร่วมทาง 16 ชุมชนร่วมวางเป้าหมายทิศทางการทำงานใน 3 ปีข้างหน้า เพื่อ"ชุมชนกินอิ่ม นอนอุ่น ทุนมี หนี้หมด ปลดทุกข์ สุขสบายชุมชนภาคใต้ตอนบน"
  • เครือข่ายประเทศลาว-เวียดนาม ร่วมดูงานกิจกรรมเยาวชนสร้างสรรค์ของเครือข่ายองค์กรงดเหล้าจังหวัดชลบุรี

    เครือข่ายประเทศลาว-เวียดนาม ร่วมดูงานกิจกรรมเยาวชนสร้างสรรค์ของเครือข่ายองค์กรงดเหล้าจังหวัดชลบุรี

                    เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2565 เครือข่ายองค์กรงดเหล้า หรือ SDN ได้มีโอกาสนำพาคณะดูงานชาวต่างชาติ จาก The Promotion of Family Health Association (PFHA) ประเทศลาว 2 ท่าน และ Research and Training Centre for Community Delelopment (RTCCD) ประเทศเวียดนาม 2 ท่าน ลงพื้นที่ศึกษาดูงานกิจกรรมเยาวชนสร้างสรรค์ของเครือข่ายองค์กรงดเหล้าจังหวัดชลบุรี
                      ตอนรับภาคีเครือข่ายอย่างเป็นกันเอง โดยการดำเนินกิจกรรมของแกนนำเยาวชนเครือข่ายองค์กรงดเหล้าจังหวัดชลบุรีนั้น เป็นการขับเคลื่อนด้วยพลังเยาวชนคนรุ่นใหม่อย่างเข้มแข็ง ที่ร่วมกันออกแบบและดำเนินกิจกรรมด้วยตนเอง เป้าประสงค์ของการจัดกิจกรรมนี้ เกิดขึ้นมาเพื่อขยายเครือข่ายเยาวชนที่ทำกิจกรรมในพื้นที่ให้มากขึ้น โดยมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า น้องๆ YSDN ( Youth Strong & Development Network )
           เริ่มต้นจากกิจกรรมละลายพฤติกรรม (Ice Breaking) โดยได้เชื้อเชิญทีมผู้เข้าร่วมจากต่างชาติเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมด้วย เป็นแลกเปลี่ยนเรียนรู้รูปแบบการทำกิจกรรมเยาวชนในพื้นที่ พร้อมทั้งเป็นการพัฒนาศักยภาพการสื่อสารภาษาอังกฤษของทีมเยาวชนได้เป็นอย่างดี
           กิจกรรมถัดไปเป็นการเรียนรู้ในเรื่องของพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 และข้อบังคับในประเด็นแอลกอฮอล์ของนานาชาติโดย “น้องโนเกีย” นายอรรถสิทธิ์ ไทรทอง แกนนำเยาวชน YSDN จ.ชลุบรี ที่ได้รับรางวัล YSDN Award 2022 สาขา เฝ้าระวังและกระตุ้นการบังคับใช้กฎหมาย เป็นผู้แบ่งปันความรู้และดำเนินกิจกรรมถามตอบโจทย์ปัญหาเพื่อสร้างความเข้าใจในประเด็นกฎหมายเพิ่มมากขึ้น และในช่วงบ่ายเป็นกิจกรรมฐาน Walk rally เพื่อส่งเสริมการทำงานเป็นทีม โดยในฐานกิจกรรมทั้งหมดจำนวน 5 ฐาน เป็นฐานกิจกรรมที่ส่งเสริมภาวะผู้นำและสอดแทรกข้อมูลเรื่องโทษพิษภัยของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

    โดยทั้งภาพรวมของกิจกรรมดำเนินไปได้เป็นอย่างดี มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนกันระหว่างน้องๆเยาวชน YSDN และภาคีเครือข่ายต่างประเทศที่เข้าร่วมเรียนรู้อย่าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ทำให้เราสามารถถ่ายทอดรูปแบบกิจกรรมและบทบาทหน้าที่การทำงานรณรงค์ของเยาวชนให้เครือข่ายต่างชาติได้รับทราบ รวมไปถึงพัฒนาศักยภาพการสื่อสารและความกล้าแสดงออกของน้องๆเยาวชนเพื่อยกระดับการร่วมกิจกรรมนานาชาติต่อไป