Category: ชุมชนคนสู้เหล้า

  • เครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคใต้ตอนบนจับมือ 6 โรงเรียน ประชุมออกแบบงานขับเคลื่อนงานโรงเรียนสกัดนักดื่มหน้าใหม่

    เครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคใต้ตอนบนจับมือ 6 โรงเรียน ประชุมออกแบบงานขับเคลื่อนงานโรงเรียนสกัดนักดื่มหน้าใหม่

         เครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคใต้ตอนบนจับมือ 6 โรงเรียนกลุ่มเป้าหมาย จัดประชุมออกแบบงานขับเคลื่อนงานโรงเรียนสกัดนักดื่มหน้าใหม่ร่วมกับ ผู้อำนวยการโรงเรียน/คุณครู ประชาคมจังหวัด และนักศึกษาฝึกงานสาขาการพัฒนาชุมชน ม.ราชภัฏสุราษฎร์ธานี  หวังลดนักดื่มหน้าใหม่ซึ่งเป็นเยาวชน ให้ห่างไกลปัจจัยเสี่ยง สอดคล้องกับเป้าหมายเมืองใต้ ปลอดเหล้า ปลอดภัย

    เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 เครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคใต้ตอนบน (สคล.ภาคใต้ตอนบน) จัดเวทีประชุมออกแบบงานขับเคลื่อนงานโรงเรียนสกัดนักดื่มหน้าใหม่ ณ โรงแรมแก้วสมุย จ.สุราษฎร์ธานี โดยนายองอาจ พรหมมงคล ผู้ประสานงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคใต้ตอนบน เผยข้อมูลสถิติของนักดื่มหน้าใหม่ที่เพิ่มขึ้น/ลดลงในของแต่ละจังหวัด จากการทำงานขับเคลื่อนของ สคล.ภาคใต้ตอนบน ตลอดระยะเวลา 10 ปีซึ่งนำไปสู่การออกแบบการจัดสภาพแวดล้อมภายในโรงเรียนให้เหมาะสมและปลอดภัย พร้อมทั้งชี้ให้เห็นถึงผลสำรวจที่ได้จากการเข้าไปสำรวจของนักศึกษา ร่วมออกแบบและกำหนดวันทำกิจกรรมของนักศึกษาฝึกงานที่จะเข้าไปทำกิจกรรมภายใน 6 โรงเรียน คือ

    1. โรงเรียนทุ่งคาโตนด ต.เขาทะลุ อ.สวี จ.ชุมพร
    2. โรงเรียนบ้านในเหมือง ต.นาขา อ.หลังสวน จ.ชุมพร
    3. โรงเรียนเวียงสระ ต.เวียงสระ ต.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี
    4. โรงเรียนวัดเขาขุนพนม ต.บ้านเกาะ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช
    5. โรงเรียนละอุ่นวิทยาคาร ต.บางแก้ว อ.ละอุ่น จ.ระนอง
    6. โรงเรียนวัดโพธิ์เรียง ต.กระบี่น้อย อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่
        โดยนักศึกษาฝึกงานได้นำเสนอโครงการ โดยอาศัยข้อมูลที่ได้จากเข้าไปสำรวจเด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 1-3 ในการเขียนโครงการเพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมและออกแบบกระบวนการร่วมกัน และมีพื้นที่ที่นักศึกษาฝึกงานเข้าไปสำรวจและทำกิจกรรมทั้งหมด 4 พื้นที่ คือ 
    1. โรงเรียนทุ่งคาโตนด ต.เขาทะลุ อ.สวี จ.ชุมพร
    2. โรงเรียนบ้านในเหมือง ต.นาขา อ.หลังสวน จ.ชุมพร
    3. โรงเรียนเวียงสระ ต.เวียงสระ ต.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี
    4. โรงเรียนวัดเขาขุนพนม ต.บ้านเกาะ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช
        ทั้งนี้เป้าหมายของการขับเคลื่อนงานโรงเรียนสกัดนักดื่มหน้าใหม่ คือ สร้างเกราะ สภาพแวดล้อมภายในโรงเรียน เพื่อปกป้องเด็กเยาวชนจากปัจจัยเสี่ยงที่ไม่ใช่แค่ สุราหรือบุหรี่ แต่รวมไปถึงกระท่อม กัญชาและยาเสพติดด้วย
    
  • จังหวัดลำปาง “จัดอบรมเยาวชนนักสื่อสารกับการรู้เท่าทันสื่อ”

    จังหวัดลำปาง “จัดอบรมเยาวชนนักสื่อสารกับการรู้เท่าทันสื่อ”

    การเปิดพื้นที่ให้กับเด็กเยาวชน จึงเป็นการสร้างแกนนำแถว 2 และแถว 3 เพื่อเสริมสร้างการขับเคลื่อนงานโดยชุมชน เพื่อชุมชน เพราะเชื่อว่าคนในพื้นที่สื่อสารออกมาจะเป็นข้อเท็จจริง มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง ศูนย์ประสานงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า และสถาบันแสนผญ่า จึงได้จัดอบรมเพื่อเพิ่มทักษะในเขียนข่าว และเทคนิคการสื่อสาร

    เมื่อวันที่ 4-5 กุมภาพันธ์ 2566 ณ ห้องประชุมธัญกร คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฎลำปาง ศูนย์ประสานสานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคเหนือตอนบน ร่วมกับประชาคมงดเหล้าจังหวัดลำปาง ได้จัดอบรมเยาวชนนักสื่อสารกับการรู้เท่าทันสื่อเพื่อดำเนินการส่งเสริมในการสร้างทักษะการรู้เท่าทันสื่อ และสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานในพื้นที่จังหวัดลำปางในการมีส่วนร่วมและเผยแพร่ อีกทั้งเป็นการใช้สื่ออย่างสร้างสรรค์ ในการปลูกฝันคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมที่พึงประสงค์ในสร้างความรู้ความเข้าใจในบทบาท สิทธิและหน้าที่ของการเป็นพลเมืองที่ดีอย่างสร้างสรรค์ และสามารถขยายผลถึงคนในครอบครัว ชุมชนได้อย่างรู้เท่าทันสถานการณ์ต่อไป

  • ตำบลทุ่งกุลา รณรงค์สร้างสรรค์ กีฬาต้านยาเสพติด สร้างสมานฉันท์

    ตำบลทุ่งกุลา รณรงค์สร้างสรรค์ กีฬาต้านยาเสพติด สร้างสมานฉันท์

    เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2566 สำนักงานเครือข่ายงดเหล้า(สคล.)ภาคอีสานตอนบน เครือข่ายงดเหล้าจังหวัดร้อยเอ็ด ภายใต้การสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.)ร่วมกับองค์กรบริหารส่วนตำบลทุ่งกุลา ภาคีเครือข่าย ชมรมคนหัวใจเพชรตำบลทุ่งกุลา โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพจานเตย ผู้นำชุมชน 14 หมู่บ้าน จัดกิจกรรมรณรงค์และแข่งขันกีฬาต้านยาเสพติด สร้างความสมานฉันท์ตำบลทุ่งกุลา ณ สนามโรงเรียนจานเตยวิทยาประชาสรรค์ ตำบลทุ่งกุลา จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นกิจกรรมการแข่งขัน สร้างความปองดองในตำบลทุ่งกุลา เชื่อมสัมพันธ์ที่ดี ระหว่างกันในชุมชน 14 หมู่บ้านและเป็นกิจกรรมการมีส่วนร่วมของคน 3 วัย วัยผู้สูงอายุ วัยทำงาน เยาวชนและประกวดขบวนแห่พาเหรด “รณรงค์ลด ลด เลิกเหล้า บุหรี่ และปัจจัยเสี่ยง” เพื่อให้คนในชุมชนตระหนักและรู้เท่าทันถึงพิษภัยเหล้าบุหรี่และยาเสพติด ออกแบบการรณรงค์ที่สร้างสรรค์โดยการมีส่วนร่วมของคน 3 วัยในแต่ละหมู่บ้าน

    โดยมีนายคารม พลพรกลาง สมาชิกผู้แทนราษฎร จังหวัดร้อยเอ็ดให้เกียรติเป็นประธานในจัดกิจกรรมครั้งนี้ นอกจากนี้ทางเทศบาลทุ่งกุลาทำหนังสือประกาศการจัดงานแข่งขันกีฬาต้านยาเสพติดและสร้างความสมานฉันท์ตำบลทุ่งกุลา เพื่อให้เด็ก เยาวชน และประชาชน ได้มีกจกรรมสร้างสรรค์ สร้างความสามัคคี รณรงค์ลดพฤติกรรมการดื่มแอลกอฮอล์งานประเพณี ลดอุบัติเหตุในชุมชนและปฏิบัติตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551

    นายอนุภาส มังสระคู นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลทุ่งกุลา

    “การจัดกิจกรรมครั้งนี้เพื่อให้คนในตำบลทุ่งกุลา ให้เยาวชนและประชาชน รู้จักเล่นกีฬา ส่งเสริมการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดี และไม่ยุ่งเกี่ยวกับสิ่งแสพติด มีความรักความสามัคคีในตำบลทุ่งกุลา”

    กิจกรรมครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานราชการ ผู้นำชุมชน เยาวชนและประชาชนในทุ่งกุลา มีส่วนร่วมในการเล่นกีฬา และการออกกำลังกายห่างไกลจากเหล้า บุหรี่ ยาเสพติด “สนุกได้ ไร้แอลกอฮอล์”

    ภาพ/ข่าว : แผนงานชุมชนและพัฒนาศักยภาพคนหัวใจเพชร เครือข่ายงดเหล้าภาคอีสานตอนบน

  • ชาวเวียงสระ จัดงาน “ชวนล่องพาใจกลับไปอดีต” การขับเคลื่อนงานประวัติศาสตร์ท้องถิ่นสู่การจัดการท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้ภูมินิเวศลุ่มแม่น้ำตาปี

    ชาวเวียงสระ จัดงาน “ชวนล่องพาใจกลับไปอดีต” การขับเคลื่อนงานประวัติศาสตร์ท้องถิ่นสู่การจัดการท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้ภูมินิเวศลุ่มแม่น้ำตาปี

        เมื่อวันที่ 27-29 มกราคม 2566 ชาวบ้านในพื้นที่ อ.เวียงสระ ได้จัดงาน “ชวนล่องพาใจกลับไปอดีต” ขึ้น เพื่อนำเสนอเส้นทางการเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ของเมืองโบราณเมืองเวียงสระและภูมินิเวศลุ่มน้ำตาปี สู่การขับเคลื่อนการท่องเที่ยงทางประวัตศาสตร์มีชีวิต

    ในวันที่ 27 มกราคม 2566 ได้นำนักเรียน/นักศึกษา และผู้ที่สนใจลงพื้นที่ไปตามเส้นทางประวัติศาสตร์เมืองโบราณเมืองเวียงสระและภูมินิเวศลุ่มน้ำตาปี เพื่อเรียนรู้ประวัติศาสตร์/วิถีชีวิต/ระบบนิเวศ ของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เส้นทางประวัตศาสตร์นี้ โดยมีเส้นทางศึกษาประวัติศาสตร์ 3 เส้นทาง คือ 1.คลองพรง บ้านนาสาร 2.คลองอิปัน พระแสง และ 3.คลองตาปี เมืองเวียงสระ

        ในวันที่ 28 มกราคม 2566 ได้มีการกล่าวต้อนรับ โดย นายโกศล สุขเกษม กำนันตำบลเวียงสระ และนายจงจิตร อภิชาตกุล ผู้ใหญ่บ้าน หมูที่ 7 บ้านเวียงสระ ก่อนที่เริ่มกิจกรรมภายในงาน โดยมี นางสาวรัตนา ชูแสง บอกเล่าเป้าหมายจัดเวทีเรียนรู้ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น เมืองโบราณเวียงสระ ซึ่งบอกเล่าการทำงานที่ผ่านมาของกลุ่มเครือข่ายเด็ก เยาวชน และครูภูมิปัญญารุ่นใหม่ในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเราได้มีโอกาสเรียนรู้ ทำงานวิจัยเล็กๆ ในชุมชนนเพื่อที่จะนําเรื่องราวในอดีตขึ้นมาสู่การเรียนรู้ในปัจจุบัน โดยใช้เส้นสายน้ำคลองอีปัน คลองพรง คลองตา และอีกหลายหลายคลองที่พยายามที่จะเข้าไปสืบค้นเรื่องราวประวัติศาสตร์และร่องรอยความรุ่งเรืองในอดีต โดยเริ่มกิจกรรมกันตั้งแต่ พ.ศ. 2548 มีการสร้างแกนนําเยาวชนในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ในเรื่องของการอนุรักษ์สายน้ำและมีการสํารวจสายน้ำตั้งแต่ต้นน้ำซึ่งเป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์ลงมาจนถึงแม่น้ำตาปีด้านหลังวัดเวียงสระ
    และมีการเสวนาในหัวข้อ “การขับเคลื่อนงานประวัติศาสตร์ท้องถิ่นสู่การจัดการท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้ภูมินิเวศลุ่มแม่น้ำตาปี” ซึ่งในการเสวนาครั้งนี้สรุปได้ว่า การเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ควรที่จะเริ่มต้นจากตัวเอง ครอบครัว แล้วค่อยขยายสู่ชุมชนและพื้นที่ใกล้เคียง อีกอย่างถ้าจะให้เกิดการท่องเที่ยวนั้นควรให้เกิดเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต มีการสร้างเด็กเยาวชนในพื้นที่ที่บอกเล่าประวัติศาสตร์ของพื้นที่นี้ และมีการส่งต่อรุ่นสู่รุ่น
    หลังจากนั้นจะมีลานเรียนรู้ภูมิปัญญาวัฒนธรรมชุมชน โดยเครือข่ายในชุมชนและพื้นที่ใกล้เคียง มีลานวัฒนธรรม โดยมีการแสดงมโนราห์ ซึ่งเป็นการว่าบทมโนราห์แบบโบราณ และมีการแสดงดนตรีจากนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี วง Z-two
        ในวันที่ 29 มกราคม 2566 มีการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาพราหมณ์ เรียกพิธีกรรมนี้ว่า “การทำอารตี” คือการบูชาองค์เทพด้วยไฟ ซึ่งการทำอารตีถือเป็นการบูชาและแสดงความเคารพองค์เทพอย่างสูงสุดเหนือกว่าการสวดมนต์บูชาและถวายของสังเวยใดๆทั้งปวง โดยการทำอารตีตามแบบพิธีกรรมฮินดูโบราณ โดยการทำอารตี มีขั้นตอนในการทำพิธีกรรมดังนี้
                        1.) ถวายเครื่องสังเวย
                        2.) สวดมนต์ตราบูชาองค์พระพิฆเนศ
                        3.) อธิษฐานขอพร
                        4.) ทำการอารตี (หลังจากอธิษฐานเสร็จ)
                วัสดุอุปกรณ์ที่จะต้องเตรียมสำหรับทำพิธี
                         1.) ถาดอลูมิเนียมหรือสแตนเลส
                         2.) ถางประทีป (ถ้าไม่มีจริงๆ สามารถใช้ เทียนไข แทนได้)
                         3.) ดอกดาวเรือง 2-3 ดอก จากนั้นฉีกเอาเฉพาะกลีบดอก
                         4.) กำยานรูปกรวย 1 ชิ้น
                วิธีจัดถาดอารตี
                         1.) โรยกลีบดอกดาวเรืองให้ทั่วทั้งถาด
                         2.) วางถางประทีปไว้กลางถาด
                         3.) วางกำยานไว้ด้านใดด้านหนึ่งใกล้ๆถางประทีป
           วิธีการอารตี
                         1.) จุดไฟที่กำยานและถางประทีป
                         2.) ร้องเพลงอารตีขององค์พระพิฆเนศ หรือ เปิดเพลงบทอารตีให้ท่านก็ได้
                         3.) ทำการเวียนถาดตามเข็มนาฬิกา โดยระดับของถาดไล่ไปตามระดับเริ่มจากระดับพระบาท (เท้า) ขององค์เทวรูป หมุนวนตามเข็มนาฬิกาทั้งหมด 3 รอบ จากนั้นไต่ระดับไปที่พระอุระ (หน้าอก) ขององค์เทวรูป หมุนวนตามเข็มนาฬิกาทั้งหมด 3 รอบ จากนั้นไต่ระดับไปที่พระเศียร (ศรีษะ) ขององค์เทวรูป หมุนวนตามเข็มนาฬิกาทั้งหมด 3 รอบ และสุดท้ายให้หมุนวันถาดตามเข็มนาฬิกา โดยให้หมุนเป็นวงกว้างครอบทั้ง องค์เทวรูปหรือโต๊ะบูชา
    ** ในขั้นตอนนี้หากมีผู้ร่วมอารตีกับเรา สามารถให้ท่านอื่นหมุนวนถาดไปจนกว่าจบบทสวด(จนเพลงจบ)
                        4.) นำถาดอารตีวางไว้หน้าแท่นบูชาองค์เทพ พร้อมกับนำมือกอบควันไฟ เข้าหาตัว เข้าหาหน้าของเรา แล้วภาวนาว่า..."โอม" ขณะกล่าวคำว่าโอมให้ลากเสียงยาวๆ โดยทำ 3 ครั้ง (อาจจะไม่ตรงกับแบบฉบับอื่นๆ )
                        5.) กรุณาเฝ้าถาดที่มีไฟอยู่ ให้ไฟดับเสียก่อน เพราะไฟไหม้อาจไหมได้ ถ้าไม่มีคนนั่งเฝ้า ถ้าไม่สะดวกให้ดับถางประทีปที่จุดไฟ (เฉพาะถางประทีปอย่าดับกำยาน) ด้วยน้ำ หรือลม...ตรงจุดนี้องค์เทพท่านเข้าใจว่าเป็นการอารตีส่วนบุคคล ซึ่งมีข้อจำกัดทางด้านเวลาและสถานที่
        นายรัตตพล สุวรรณโชติ แกนนำคนหัวใจเพชรและครูภูมิปัญญาชุมชนประวัติศาสตร์เมืองเวียงกล่าวทิ้งท้ายว่า การจัดงานในครั้งนี้เป็นการบูรณการร่วมกันของภาคีเครือข่ายเพื่อสร้างการเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์อย่างสร้างสรรค์และปลอดภัย ห่างไกลปัจจัยเสี่ยง รวมถึงเพื่อนำเสนอสินค้า ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมในท้องถิ่นให้กับสารธารณะได้รับรู้ อีกทั้งเด็ก-เยาวชน ที่เป็นแกนนำเยาวชนในพื้นที่ก็มีความหวงแหนและเป็นเจ้าของพื้นที่ ในขณะที่ต้องขับเคลื่อนตนเองให้เท่าทัน เรื่องเหล้า-บุหรี่และปัจจัยเสี่ยงอื่นๆด้วย
  • ตำบลหนองซน จัดงาน เดิน-วิ่งเพื่อสุขภาพ และมอบเกียรติบัตรเชิดชูคนหัวใจเพชร(เลิกเหล้าตลอดชีวิต)

    ตำบลหนองซน จัดงาน เดิน-วิ่งเพื่อสุขภาพ และมอบเกียรติบัตรเชิดชูคนหัวใจเพชร(เลิกเหล้าตลอดชีวิต)

    เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2566 สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า(สคล.) ภาคอีสานตอนบนภายใต้การสนับสนุนสำนักงานกองทุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลหนองซน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหนองซน โรงพยาบาลสุขเสริมสุขภาพตำบลคำแม่นาง ชมรมอาสาสมัครเครือข่ายงดเหล้า(คนหัวใจเพชร)และภาคีเครือข่ายในพื้นที่ ร่วมกันจัดกิจกรรมชื่นชมคนหัวใจหิน(งดเหล้าครบพรรษา) เชิดชูคนหัวใจเพชร(เลิกเหล้าตลอดชีวิต) และชวนออกกำลังกาย โดยการจัดงานแข่งขัน “เดิน-วิ่งเพื่อสุขภาพ หนองซน ฟัน รัน 2023” ณ สนามองค์กรบริหารส่วนตำบลหนองซน อำเภอนาทม จังหวัดนครพนม โดยได้รับเกียรติจากนางสาวศุภพานี โพธิ์สุ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม ให้เกียรติเป็นประธานมอบเกียรติบัตรในครั้งนี้ ซึ่งพื้นที่ตำบลหนองซนในปี2565 มีคนเข้าร่วมโครงการงดเหล้าเข้าพรรษา จาก14 หมู่บ้าน จำนวน 278 สามารถงดเหล้าครบพรรษา (คนหัวใจหิน) จำนวน 229 คน คนหัวใจเพชร 1 คน นอกจากนี้ชมรมอาสาสมัครเครือข่ายองค์กรงดเหล้า(คนหัวใจเพชร) ร่วมออกบูธให้ความรู้พิษภัยเหล้า บุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า กัญชา และเล่นเกมรับของรางวัลมากมาย กิจกรรมครั้งนี้มีข้าราชการ อสม. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน คนหัวใจเหล็ก คนหัวใจเพชร นักเรียน และพี่น้องชาวตำบลหนองซนพร้อมใจกันออกมาวิ่งเพื่อสร้างกระแสรักสุขภาพ ด้วยการออกกำลังกาย

    นางศุภพานี โพธิ์สุ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม กล่าวว่า

    “เป็นโครงการที่ดีมาก ชื่นชมหน่วยงานที่สนับสนุบและจัดโครงการเพื่อชวนคนลด ละ เลิกสุรา แล้วหันมมาออกกำลังกาย และชื่นชมบุคลต้นแบบที่สามารถเลิกเหล้าได้ มีสุขภาพแข็งแรง ไม่ว่าใส่ชุดอะไรก็สามารถออกกำลังกาย”

    นายวันดี เถียงเชียงขวาง คนหัวใจเหล็ก เล่าว่า

    “ตนเองอายุ63ปี เลิกเหล้ามาแล้ว 1 ปี เห็นทาง อบต.มีการชวนคนมาวิ่งฟรีและรางวัลด้วย ตนเองเลยมาร่วมกิจกรรมครั้งนี้ ซึ่งเป็นการวิ่งแข่งขันครั้งแรกของตนเอง ภูมิใจที่ตนเองสมารถเข้าเส้นชัยอันดับ1 ประเภททั่วไปอายุ 61 ปีขึ้นไป”

    กิจกรรมในครั้งนี้ทางพื้นที่ตำบลหนองซนจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการส่งเสริมให้คนหันมาดูแลสุขภาพ ด้วยการออกกำลังกาย และห่างไกลจากเหล้า บุหรี่ และยาเสพติด

    ภาพ/ข่าว : แผนงานชุมชนและพัฒนาศักยภาพคนหัวใจเพชร

  • คนหัวใจเพชรตำบลวังแสง พัฒนาสัมมาชีพ สร้างคน สร้างสังคม สร้างค่านิยมห่างไกลแอลกอฮอล์

    คนหัวใจเพชรตำบลวังแสง พัฒนาสัมมาชีพ สร้างคน สร้างสังคม สร้างค่านิยมห่างไกลแอลกอฮอล์

    เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2566 เครือข่ายงดเหล้าจังหวัดมหาสารคามร่วมกับองค์การบริหานส่วนตำบลวังแสง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหนองบัวและภาคีเครือข่ายในพื้นที่ จัดเวทีพัฒนาสัมมาชีพคนหัวใจเพชร เลิกเหล้าตลอดชีวิต ณ ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลวังแสง อ.แกดำ จ.มหาสารคาม กระบวนการและคืนข้อมูล โดยมีการคัดกรองเพื่อความช่วยเหลือผู้ดื่มสุราหรือสูบบุหรี่(KD assist) จำนวน 20หมู่บ้าน อายุ 15ปีขึ้นไป จำนวน 4,731 คน พบว่ามีคนดื่ม 230คน เสี่ยงติดสุราและสูบบุหรี่ 154 คน และมีคุณอัญชลี ทองภูบาล พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ โรงพยาบาลแกดำ มาเป็นวิทยากรชวนคนหัวใจเพชรระดมความคิดจัดทำแผนสุขภาพตนเอง ครอบครัวและแผนสุขภาพตำบลสุขภาวะ ร่วมกันเพื่อลดการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในชุมชน นอกจากนั้นยังมีคุณพ่อพุธ ทองลา ผู้เชี่ยวชาญชีววิถีสู่เกษตรอินทรีย์ที่ยั่งยืน มาอรมเชิงปฏิบัติการเศรษฐกิจพอเพียงและฝึกปฏิบัติอาชีพเสริมทำปุ๋ยจุรินทรีย์ ปลอดสารพิษ ปลอดภัยใช้ในครัวเรือนหรือสามารถทำขายสร้างรายได้ให้กับตนเองและครอครัว ซึ่งเป็นการสร้างคน สร้างสังคม สร้างค่านิยมห่างไกลแอลกอฮอล์

    นายสมนึก ไชยสงค์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลวังแสง กล่าวว่า

    “ทางตำบลหนองแสงมีการขับเคลื่อนการลด ละ เลิก ทั้งตำบล โดยมีรพสต.2แห่ง คือ รพ.สต.หนองบัว และรพ.สต.วังแสง มีความเข้มแข็งในการส่งเสริมสร้างสุขภาพที่ดีให้กับคนในชุมชนและชื่นชมอสม.ทุกคนที่ร่วมช่วยกันเป็นอย่างดี พร้อมยินดีที่จะสนับสนุนเพราะการลดละสุรา เพราะการให้เลิกดื่มได้ก็จะทำให้คนมีสุขภาพดี ลดค่าใช้จ่ายในครอบครัว ”

    นายบุญชอบ สิงห์คำ ผู้ประสานงานเครือข่ายงดเหล้าจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า

    “คนหัวใจเพชรเป็นบุคคลต้นแบบในการเลิกเหล้า อยากชวนกันรวมกลุ่มจัดตั้งเป็นชมรมอาสาสมัครเครือข่ายงดเหล้า(คนหัวใจเพชร) เพื่อขับเคลื่อนในการชวนคน ลด ละเลิกเครื่องดื่มแอลกฮอล์และปัจจัยเสี่ยงสุขภาพต่อคนในชุมชนต่อไป”

    ข่าว/ภาพ แผนงานชุมชนและพัฒนานักสื่อสารคนหัวใจเพชร ภาคอีสานตอนบน