Category: ชุมชนคนสู้เหล้า

  • นักวิ่งกว่า 500 ชีวิต ร่วมพิชิตประวัติศาสตร์ขุมเหมืองแห่งตำนาน ต.นาขา อ.หลังสวน จ.ชุมพร

    นักวิ่งกว่า 500 ชีวิต ร่วมพิชิตประวัติศาสตร์ขุมเหมืองแห่งตำนาน ต.นาขา อ.หลังสวน จ.ชุมพร

               เมื่อวันที่ 24 - 25 ธันวาคม 2565 ชุมชนศูนย์เรียนรู้งดเหล้าลดปัจจัยเสี่ยง หรือ ชุมชนสู้เหล้าจังหวัดชุมพร ร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่าย จัดกิจกรรมวิ่งเพื่อสุขภาพ โดยเชิญชวนคนในพื้นที่และบุคคลที่รักสุขภาพที่สนใจร่วมกิจกรรมวิ่งตามรอยประวัติศาสตร์การทำเหมืองแร่
    นางสาวแสงนภา หลีรัตนะ
                 โดยนางสาวแสงนภา หลีรัตนะ หรือว่า “พี่สาว” ได้เล่าว่า พื้นที่ที่จัดงานนี้เรียกว่า “บ้านในเหมือง” หรือ “เหมืองในหูด” ซึ่งมีประวัติศาสตร์การทำเหมืองแร่มานานกว่า 109 ปี และเป็นพื้นที่ที่มีความเจริญเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีชาวต่างชาติเข้ามาทำเหมืองแร่ จนถึงปีพศ. 2538 แร่ได้หมดลง ชาวบ้านจึงต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตจากการเป็นคนงานในเหมืองแร่สู่การเป็นเกษตรกร เมื่อวันเวลาผ่านไปชาวบ้านในพื้นที่กลัวว่า เด็กรุ่นหลังจะไม่ทราบประวัติความเป็นมาของบ้านเกิดตนเอง และไม่เกิดสำนึกรักถิ่นบ้านเกิด ทางชุมชนเห็นร่วมกันว่าอยากให้เด็กๆได้เรียนรู้ประวัติความเป็นมาของบ้านเกิดตนเอง โดยการฟื้นประวัติศาสตร์ขึ้นมาอีกครั้งผ่านการทำพิพิธภัณฑ์เหมืองแร่ โดยให้เห็นวิถีชีวิตของคนรุ่นปู่ย่า ตายาย สมัยยังมีการทำเหมืองแร่ในพื้นที่นี้อยู่ จึงมีการจัดงาน “วิ่งขุมเหมือง เมืองแห่งตำนาน” เพื่อระดมทุนในการสร้างพิพิธภัณฑ์เหมืองแร่ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ชุมชน การสร้างสุขภาพชุมชน และสร้างจิตสำนึกรักบ้านเกิด
    
                 ซึ่งในวันที่ 24 ธันวาคม 2565 นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เป็นประทานในพิธีเปิดงาน“วิ่งขุมเหมือง เมืองแห่งตำนาน” ซึ่งภายในงานจะมีบูธประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการทำเหมืองแร่ มีการสาธิตการ "ร่อนแร่"

    มีการสาธิตการ “ร่อนแร่”

    มีการแสดงล่องแม่ปิงและวอนลมฝากรัก จากชาวบ้านและนักศึกษาฝึกงานจาก ต.เขาค่าย อ.สวี จ.ชุมพร

    มีการแสดงจากนักศึกษาฝึกงานจาก ต.นาขา อ.หลังสวน จ.ชุมพร
    

    และกิจกรรมสร้างสรรค์จากเด็กและเยาวชนในพื้นที่

    นายนพพร อุสิทธิ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร
              และเมื่อเวลา 06.09 น. วันที่ 25 ธันวาคม 2565 นายนพพร อุสิทธิ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร เป็นประธานในพิธีปล่อยตัวนักวิ่ง กิจกรรม“วิ่งขุมเหมือง เมืองแห่งตำนาน” จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 1 โดยมีนักวิ่งเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 500 คน
              โดยการจัดงานครั้งนี้ช่วยให้คนในพื้นตื่นตัวและส่งต่อประวัติศาสตร์การทำเหมืองแร่ให้กับเด็กๆรุ่นหลัง การสร้างสุขภาพที่ดีผ่านกิจกรรมวิ่ง การสร้างงานสร้างอาชีพ และเสริมการท่องเที่ยวให้เกิดขึ้นกับคนในพื้นที่ในอนาคต และทำให้ชุมชนสู้เหล้า หรือศูนย์เรียนรู้งดเหล้าลดปัจจัยเสี่ยงเป็นที่รู้จักมากขึ้น
  • ชมรมคนหัวใจเพชรอีสานบน ดูงานบ้านโคกเครือ “ที่ห้ามคนตายก่อนอายุ 80 ปี”

    ชมรมคนหัวใจเพชรอีสานบน ดูงานบ้านโคกเครือ “ที่ห้ามคนตายก่อนอายุ 80 ปี”

    วันที่ 16-18 ธันวาคม 2565 สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคอีสานตอนบน ภายใต้การสนับสนุน จากสำนักงานกองทุนสนุบสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ชมรมอาสาสมัครเครือข่ายงดเหล้า หรือเรียกว่า อ.สคล.(คนหัวใจเพชร) ภาคอีสานตอนบน ณ หอประชุมธรรมาภิบาลเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์

    โดยมีเจ้าอธิการแดง ปญฺญาวโร เจ้าคณะตำบลบึงวิชัย (เครือข่ายพระสงฆ์นักพัฒนาภาคอีสาน) อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ กล่าวสร้างพลังใจประชาคมงดเหล้าภาคอีสานตอนบนและคนหัวใจเพชร

    “สิ่งที่ทำเป็นการช่วยเหลือให้คนมีสุขภาพดี คนที่สามารถเลิกเหล้าได้ถือว่าเป็นคนมีจิตใจที่เข้มแข็ง สวยงามจากข้างในเพราะเป็นคนที่มีใจความปรารถนาที่จะทำสิ่งดี ก็ขอให้รักษาสิ่งดีงามข้างในนี้ไว้”

    เวทีครั้งนี้มีชมรม อ.สคล.(คนหัวใจเพชร) 12 ชมรมคือ ชมรมอ.สคล.(คนหัวใจเพชร)ตำบลดงบัง, ชมรมอ.สคล.(คนหัวใจเพชร)ตำบลกู่สันตรัตน์, ชมรมอ.สคล.(คนหัวใจเพชร)ตำบลหองไผ่, ชมรมอสม.ตำบลหนองกุง, ชมรมคนหัวใจเพชรตำบลทุ่งกุลา, ชมรมคนหัวใจเพชร เลิกเหล้าตลอดชีวิตตำบลโพนสูง, ชมรมอ.สคล.(คนหัวใจเพชร)บ้านหัวฝาย, ชมรมอ.สคล(คนหัวใจเพชร)บ้านโคกเครือ, ชมรมอ.สคล.(คนหัวใจเพชร)ตำบลหองภัยศูนย์, ชมรมอ.สคล.(คนหัวใจเพชร)ตำบลหนองซน,ชมรมอ.สคล.(คนหัวใจเพชร)ตำบลบึงโขงหลงและชมรมอ.สคล.(คนหัวใจเพชร)ตำบลนาดี มีเสริมพลังใจความภาคภูมิใจในการเข้ามามีส่วนร่วมในชมรมฯและการชวนคน ลด ละ เลิกเหล้า การถอดบทเรียนการขับเคลื่อน ลด ละ เลิก เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของแต่ละชมรม 5 ส่วน คือ 1.แรงบันดาลใจการจัดตั้งชมรม 2.บทบาทและภารกิจ 3.การจัดสภาพแวดล้อม 4.ผลงานที่สำคัญของชมรม 5.การเชื่อมกองทุนสุขภาพตำบล และมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 12 ชมรม ทำให้ชมรมคน อ.สคล.(คนหัวใจเพชร) ภาคอีสานตอนบนมีการขับแนวทางในการเชื่อมกองทุนสุขภาพตำบล การส่งเสริมอาชีพคนเลิกเหล้า และจะยกระดับให้มีจัดตั้งกองทุนชมรม อ.สคล. (คนหัวใจเพชร) เพื่อดูแลสมาชิกและช่วยเหลือคนในชุมชน

    นอกจากนั้นชมรม อ.สคล.(คนหัวใจเพชร) ได้ลงพื้นที่ศึกษาดูงานชุมชนคนสู้เหล้าบ้านโคกเครือ ตำบลอุ่มเม่า อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยได้รับความกรุณาพระครูโสภณวินัยวัฒน์ เจ้าคณะยางตลาด เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และนายประจักษ์ ภูแลขำ นายกเทศมนตรีโคกศรี เป็นประธานฝ่ายฆารวาส กล่าวตอนรับชมรม อ.สคล.(คนหัวใจเพชร) 12 ชมรม ภาคอีสานตอนบน ในการศึกษาดูงานชุมชนคนสู้เหล้าบ้านโคกเครือ เป็นการทำงานร่วมกัน บ้าน วัด เยาวชน ในการขับเคลื่อนงานปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ด้วยสโลแกนจากพระครูโสภณวินัยวัฒน์

    “คนโคกเครือห้ามตายก่อนอายุ 80 ปี”

    โดยทางชุมชนมีฐานเรียนรู้ 4 ฐาน คือ 1.ฐานคุณธรรม จริยธรรม 2.ฐานงานบุญปลอดเหล้า 3.ธนาคารความดี 4.เศรษฐกิจพอเพียง

    นายอภิสิทธิ์ ภูชัยแสง ผู้ใหญ่บ้านโคกเครือ กล่าวว่า “ชุมชนบ้านโคกเครือเริ่มต้นจากพระครูโสภณวินัยวัฒน์ เห็นปัญหาเวลาจัดงานศพจึงมีการขับเคลื่อนงานศพปลอดเหล้า และขยายเป็นงานบุญกฐินปลอดเหล้า งานบวชปลอดเหล้า และการชวนคนลด ละเลิกเหล้า โดยใช้โอกาสงดเหล้าเข้าพรรษาเชื่อมกับการออมเงินค่าเหล้าฝากผ่าน “ธนาคารความดี” และส่งเสริมอาชีพให้กับคนเลิกเหล้า จัดตั้งเป็นกองทุน ช่วยเหลือกันในชุมชน โดยการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่าย บ้าน วัด หน่วยงาน ชมรม อ.สคล.และเยาวชนในตำบลอุ่มเม่าเพื่อการให้เกิดพื้นที่รูปธรรม”

    นายสมพงษ์ บุญตาท้าว คนหัวใจเพชรตำบลหนองซน ตัวแทนจากชมรมอ.สคล.(คนหัวใจเพชร 12 ชมรม ได้แต่งบทกลอนจากเรียนรู้ครั้งนี้ กล่าวว่า

    “ ขอบพระคุณทีมงานบ้านโคกเครือ

    ที่เอื้อเฟื้อแหล่งเรียนรู้มุ่งมีฝัน

    พาทีมงาน อ.สคล.ช่วยแบ่งปัน

    ร่วมสร้างฝันคุณค่า พาทำงาน

    มีหลวงพ่อท่านพระครูเจ้าคณะ

    พาลด ละ เลิกสุรา พาประสาน

    ท่านนายก ผู้นำทางการทำงาน

    ใหญ่อภิสิทธิ์ผู้ประสานทุกงานไป

    ทั้งสี่ฐานสุดยอดงานเป็นต้นแบบ

    ตามติดแนบปฏิบัติธรรมนำสมัย

    ลดเลิกเหล้าทำงานบุญร่วมบวชใจ

    นำพาสู่อาชีพความพอเพียง

    เยาวชนคนเก่งเร่งปลูกสร้าง

    ชี้นำทางปลูกไว้ ช่วยส่งเสียง

    ปลูกความรัก ความผูกพัน ไม่ลำเอียง

    ความพอเพียง เป็นแบบอย่างสร้างชุมชน

    ขอขอบคุณอย่างจริงใจให้อีกครั้ง

    ขอปรบมือดังๆทุกแห่งหน

    เชิญทุกท่านปรบมือทุกๆคน

    ให้ชุมชนต้นแบบบ้านโคกเครือ”

    จาก 12 ชมรม ได้เรียนรู้แลกเปลี่ยนการทำงานในการให้คนในชุมชนลด ละ เลิกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงการได้มาเรียนรู้ในชุมชนคนสู้เหล้าพื้นที่จริง ทำให้ชมรมได้ทบทวนนำสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปปรับใช้ในชมรมและชุมชนคนสู้เหล้าต่อไป

  • เวทีติดตามหนุนเสริม ให้กำลังใจ ช่วย ชม เชียร์ บ้านป่าเล จังหวัดพัทลุง

    เวทีติดตามหนุนเสริม ให้กำลังใจ ช่วย ชม เชียร์ บ้านป่าเล จังหวัดพัทลุง

    วันที่ 18 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา ณ.ชุมชนบ้านป่าเล ม.7 ตำบล ควนขนุน อำเภอ เขาชัยสน จังหวัดพัทลุง

    ประชาคมงดเหล้าจังหวัดพัทลุงร่วมกับเครือข่ายงดเหล้าภาคใต้ตอนล่าง ชมรมคนหัวใจเพชรบ้านป่าเล และภาคีเครือข่าย สสอ.เขาชัยสน รพสต บ้านท่าลาด อบต ควนขนุน โรงเรียนบ้านท่าลาดและแกนนำชุมชน จัดเวทีติดตามหนุนเสริม ให้กำลังใจ ช่วย ชม เชียร์และประชุมพูดคุย ปรึกษาประเด็นการเขียนโครงการเพื่อของบประมาณจากแหล่งทุนภายนอกเพื่อหนุนสริมการขับเคลื่อนงานงดเหล้าและการท่องเที่ยวชุมชนปลอดเหล้า

  • ตำบลทุ่งกุลา บูรณาการความร่วมมือคน 3 วัย ลดปัจจัยเสี่ยง

    ตำบลทุ่งกุลา บูรณาการความร่วมมือคน 3 วัย ลดปัจจัยเสี่ยง

    เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2565 ณ ห้องประชุมเทศบาลตำบลทุ่งกุลา อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด นายอนุภาส มังสระคู นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลทุ่งกุลา เป็นประธานการหารือแนวทางการลดปัจจัยเสี่ยงเของคนตำบลทุ่งกุลา มีภาคีเครือข่ายเข้าร่วมหารือ สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคอีสานตอนบน เครือข่ายงดเหล้าจังหวัดร้อยเอ็ด สาธารณสุขอำเภอสุวรรณภูมิ เทศบาลตำบลทุ่งกุลา โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลจานเตย โรงเรียนจานเตยวิทยาประชาสรรค์และชมรมคนหัวใจเพชรตำบลทุ่งกุลา

    นางวรลักษณ์ พูดเพราะ ผู้ช่วยผู้ประสานงานสำนักงานเครือข่ายงดเหล้าภาคอีสานตอนบน กล่าวว่า

    “ปัญหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต้องช่วยกันทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ในช่วงที่ผ่านมาพื้นที่ตำบลทุ่งกุลา ชมรมคนหัวใจเพชรร่วมกับ รพ.สต.จานเตยชวนคนงดเหล้าเข้าพรรษาอยู่แล้ว เป็นโอกาสดีที่จะชวนทุกภาคส่วนต่อยอดขยายกิจกรรมงานบุญประเพณี งานกีฬา ให้เป็นงานที่ปลอดภัย เชื่อมการทำงานร่วมกันระหว่างเด็กและผู้ใหญ่ เป็นพื้นที่ต้นแบบในงานกีฬาปลอดเหล้า ปลอดภัย”

    นายอนุภาส มังสระคู นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลทุ่งกุลา กล่าวว่า

    “ทางเทศบาลมีการจัดกีฬาเยาวชนต้านยาเสพติด เห็นด้วยในการที่จะสนับสนุนให้เด็กเล่นกีฬาด้วยใจรัก พร้อมยินดีให้ความร่วมมือในการสนับสนุนการป้องกันเยาวชนจากน้ำเมา และต้องมีสื่อสารผ่านทางกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สื่อสารไปผู้ปกครองไม่ใช้เด็กไปซื้อเหล้าเบียร์หรือผู้ปกครองบางคนให้เด็กลองดื่ม ส่วนงานกีฬาก็ต้องประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือผู้ปกครองไม่สนับสนุหล้าเบียร์ให้กับทีมนักกีฬา”

    การประชุมครั้งนี้มีแนวทางการส่งเสริมด้านงานกีฬาทั้งในเด็กเยาวชนและผู้ใหญ่ ให้ตระหนักปฏิบัติตามกฎหมายห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่ราชการ และมีการประกวดขบวนรณรงค์เหล้า บุหรี่ ยาเสพติด และการการวิ่งเก็บระยะเพื่อให้คนในชุมชนไม่ว่าเด็กและผู้ใหญ่ตำบลทุ่งกุลาหันมาออกกำลังกายดูแลสุขภาพมากขึ้น

  • เครือข่ายงดเหล้าหนองคาย พัฒนาศักยภาพคนหัวใจเพชร เคลื่อนงานชุมชนคนสู้เหล้า 10 ชุมชน

    เครือข่ายงดเหล้าหนองคาย พัฒนาศักยภาพคนหัวใจเพชร เคลื่อนงานชุมชนคนสู้เหล้า 10 ชุมชน

    วันที่ 4 ธันวาคม 2565 เครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคีสานตอนบน เครือข่ายงดเหล้าจังหวัดหนองคาย ภายใต้การสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) จัดเวทีพัฒนาศักยภาพผู้นำคนหัวใจเพชร ณ ศาลาวัดจันทรังษีวราราม ต.นาดี อ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย

    นายกังวาล ครองยุติ ผู้ประสานงานเครือข่ายงดเหล้าจังวัดหนองคาย กล่าว ยินดีต้อนรับและขอบคุณคนหัวใจเพชรจากชุมชนคนสู้เหล้า 10 ชุมชน 4 อำเภอ ที่มาร่วมกัน หวังว่าเวทีนี้แต่ละพื้นที่รู้จักเพื่อนต่างอำเภอมากขึ้น การทำงานเรื่องเหล้าเป็นอาสาเสียสละเวลา เป็นการทำบุญเพื่อช่วยเหลือคนให้มีสุขภาพดี และขอให้เก็บเกี่ยวความรู้เพื่อนำขับเคลื่อนรณรงค์ให้คน ลด ละ เลิกเหล้าเบียร์ในชุมชน เพื่อให้คนในชุมชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี”

    พระครูพิพัฒน์จันทรังษี เจ้าคณะอำเภอเฝ้าไร่ ประธานมอบเกียรติบัตรคนหัวใจเพชรผ่านการอบรมในครั้งนี้ ได้กล่าวว่า “คนหัวใจเพชรเป็นบุคคลต้นแบบที่ดีก็ได้รับเกียรติได้มอบเกียรติบัตรเป็นสิ่งที่ดี เป็นคนดี เป็นแบบอย่างที่ดี ที่ทำชีวิตเป็นแบบอย่างรักษาศีลข้อ 5 สุราเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เมื่อเรารู้จักพอก็จะสามารถลด ละ และเลิกได้ ฝากสิ่งดีงาม มูลค่าสัญลักษณ์ความดีก็ว่ายาก แต่ยากยิ่งกว่าคือการรักษาความดีได้นานกว่า จึงต้องมีสติ รู้ตนเองอยู่ รักษาความดีเป็นบุคคลต้นแบบอย่างกับผู้อื่น”

    นางนวนจัน ออระศรี ตัวแทนคนหัวใจเพชร เล่าว่า “ตนเองเริ่มดื่มอายุประมาณ 40 ปี เวลามีงานต่างๆก็มักจะดื่มหลังจากนั้นก็ดื่มมาเรื่อยๆ ก็ไม่รู้ว่าตัวเองมาติดเหล้า รู้ตัวก็ที่ตนเองดื่มมากๆ ดื่มทุกวัน วันไหนที่ไม่กินมีจะสั่น ดื่มเหล้าขาว 1 วันจะดื่มประมาณ 1ขวดเล็กหรือ1ขวดใหญ่ ก็ดื่มคนเดียวหมด จำได้ว่าเมื่อก่อนซื้อมาก็จำเอาไปซ้อนไว้ที่ต่างๆ กลัวสามีเห็น จนวันหนึ่งสามีเกิดอุบัติเหตุ ไม่ดีดใส่ตาทำให้ตาบอด 1 ข้าง ต้องรักษา ตนเองต้องกลายเป็นเสาหลักให้ครอบครัวจึงตัดสินใจเลิก วิธีการโดยการหักดิบ ช่วงแรกต่อสู้มาก หนาวสั่น หูแว่วเหมือนมีคนมาเรียกเดินไปเรื่อยๆ สามีและลูกได้ออกตามหา จนตนเองสามารถเลิกได้ สุขภาพแข็งแรง เงินหามาได้ไม่หมดไปกับค่าเหล้า ปัจจุบันเป็นสามชิกคนหัวใจเพชรตำบลนาดี และวันนี้ดีใจได้มาอบรมครั้งนี้ กลับไปก็จะไปชวนสามีตนเองให้ลด ละ เลิกเหล้า”

    ภาพ/ข่าว : เครือข่ายงดเหล้าภาคอีสานตอนบน

  • สสส.ขยับงานการท่องเที่ยวโดยชุมชนปลอดภัย ลดปัจจัยเสี่ยง ร่วมกับชาวชุมชนตำบลเขาค่าย อ.สวี ชุมพร

    สสส.ขยับงานการท่องเที่ยวโดยชุมชนปลอดภัย ลดปัจจัยเสี่ยง ร่วมกับชาวชุมชนตำบลเขาค่าย อ.สวี ชุมพร

    โดยบริบทของตำบลเขาค่าย อำเภอสวี จังหวัดชุมพร เป็นตำบลที่เป็นเทือกเขา มีเนินเขาซ้อนกันหลายลูก มีการยกตัวของภูเขา เป็นธารน้ำ คลองหินดำ มีแหล่งน้ำตก เป็นป่าทึบและพื้นที่โปร่ง และนอกจากนี้ การอาศัยของผู้คนก็กระจายตัวอยู่ตามสันเขาบ้าง มีวัดวาอารามแหล่งธรรมมะความเชื่อและศรัทธา มีวัฒนธรรม ประเพณีที่หลากหลาย ประชาชนคนเขาค่ายเป็นตำบลที่มีคนทั่วทุกภาค อีสาน กลาง เหนือ ใต้สุด อพยบย้ายถิ่นมาอยู่ใหม่กว่า 60 เปอร์เซ็นต์ องค์ประกอบของการจัดการท่องเที่ยวจึงพร้อมในเชิงระบบและโครงสร้าง ทางเครือข่ายประชาคมงดเหล้า จึงได้เสนอให้ ตำบลเขาค่ายเป็นตำบลนำร่องของโครงการวัฒนธรรมสร้างสุขท่องเที่ยวปลอดภัยของสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า(สคล.)ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.)  

    นายเทิดศักดิ์ ขนอม อดีดตนายกองค์การบริหารส่วนตำบลเขาค่าย กล่าวว่า ตนเองก็เป็นแกนนำคนหัวใจเพชร ของตำบลเขาค่าย พยายามให้คนได้ลด ละ เลิก เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำงานร่วมกับประชาคมงดเหล้า ในฐานะแกนนำ จึงอยากทำให้คนบ้านเรามีรายได้พึ่งตนเองได้ ไม่เครียด ตำบลเขาค่ายเป็นตำบลที่ทางจังหวัดจัดตั้งใหม่ มีทุกเชื้อชาติ ศาสนาและคนทั่วทุกภาคของประเทศไทยมาอาศัยอยู่รวมกัน เมื่อคนแต่แต่ละภาคย้ายมาก็ย่อมนำวิถีวัฒนธรรมที่ภูมิภาคที่ตนดำเนินชีวิตมาสืบสานด้วย ที่เห็นชัดเจนคือวัฒนธรรมด้านอาหารการกิน นักท่องเที่ยวเมื่อเที่ยว สามารถสั่งอาหารได้ทุกประเภท ภาคอีสานก็มี ส้มตำ ลาบ ก้อย ภาคเหนือก็มีแกงอ่อม ใส้อั่ว น้ำพริกหนุ่ม ภาคใต้ ก็มีแกงใตปลา น้ำยา ผัดใบเหรียง ยำทะเล เป็นต้น ส่วนการพัฒนาพื้นที่เพื่อการท่องเที่ยว ทาง อบต.ก็ปรับพื้นที่เชิงโครงสร้าง ถนนหนทาง ไฟฟ้า น้ำ มายังพื้นที่อย่างทั่วถึง เพื่ออำนวยความสะดวก สบาย สามารถนำรถขึ้นมายังดอยช้างและดอยอื่น ๆ ได้อย่างปลอดภัย 

    นางสาวแสงนภา หลีรัตนะ ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาคมงดเหล้า กล่าวว่า พื้นที่เขาค่ายทางประชาคมงดเหล้า ได้มาขยับเคลื่อนงานชุมชน คนหัวใจเพชร ลด ละ เลิก เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยเริ่มจากผู้นำอย่างนายก อบต. โดยมี อสม.ในหมู่บ้านเป็นคนคอยดูแล ช่วย ชม เชียร์ให้เลิกสุราและยาสูบ ควบคู่กันไป เมื่อทางสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า มีโครงการวัฒนธรรมสร้างสุข ท่องเที่ยวปลอดเหล้า ปลอดภัย จึงได้นำเสนอ ตำบลเขาค่ายเป็นตำบลนำร่องของโครงการเพื่อต่อยอดพื้นที่ สร้างรายได้ เสริมเศรษฐกิจชุมชน ต่อไปนี้คงต้องคุยกับชาวชุมชนและศาสนาสถาน วัดในพื้นที่ วางแผนจัดระบบที่พักโฮมเสตย์ กิจกรรมการท่องเที่ยว อาหารพื้นถิ่น เส้นทางการท่องเที่ยวที่จะเชื่อมระหว่างกันเพื่อพัฒนาโปรแกรมการท่องเที่ยวต่อไป