Tag: งดเหล้าตรัง

  • จังหวัดตรัง เปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2567

    จังหวัดตรัง เปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2567


    จังหวัดตรัง เปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2567 โดย นายทรงกลด สว่างวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานเปิดศูนย์ฯ พร้อมปล่อยขบวนรถรณรงค์การป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยมี นายสกุล ดำรงเกียรติกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง หัวหน้าส่วนราชการ ภาคีเครือข่าย ภาครัฐ ภาคเอกชน เข้าร่วมงาน ณ บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2567

    ผู้ว่าราชการจังหวัด กล่าวว่า การเกิดอุบัติเหตุทางถนนนับเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นมากที่สุดโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลต่างๆ โดยจากสถิติรถจักรยานยนต์จะเกิดอุบัติเหตุมากที่สุดประมาณร้อยละ 81 อันมีผลทำให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บ สูญเสียชีวิต และทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก สำหรับในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2567 ที่จะถึงนี้ จังหวัดตรังมีความห่วงใยในความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน จึงได้กำหนดแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ด้วยการจัดตั้งจุดตรวจบูรณาการร่วมฯ การจัดเจ้าหน้าที่ให้บริการและอำนวยความสะดวกแก่พี่น้องประชาชน ตลอดจนร่วมกันรณรงค์สร้างจิตสำนึกให้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างต่อเนื่อง ภายใต้หัวข้อหลักในการรณรงค์ “ขับขี่ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ” เพื่อให้บรรลุผลสัมฤทธิ์ในการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ เพื่อลดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2567 ระหว่างวันที่ 11 – 17 เมษายน 2567

    เครือข่ายองค์กรงดเหล้าจังหวัดตรัง นำโดย คุณไพรัช วัฒนกุล ผู้อำนวยการเครือข่ายองค์กรงดเหล้าจังหวัดตรัง คุณณัฐวัฒน์ กิตติธนาชูพันธ์ เจ้าหน้าที่ สคล.ภาคใต้ตอนล่าง พร้อมด้วยคณะทำงานและกลุ่มสาวพักตับนาข้าวเสีย นำทีมโดย คุณพยอม หนูนุ่ม แกนนำสาวพักตับอำเภอนาโยง ร่วมเปิดศูนย์ถนนป้องกันอุบัติเหตุกับหน่วยงานส่วนราชการและภาคเอกชนของจังหวัดตรังในช่วงเจ็ดวันอันตรายวันสงกรานต์

    อีกทั้งยังร่วมกิจกรรมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและสนับสนุนค่าอาหารและอาหารว่างแก่จุดตรวจในอำเภอปะเหลียน จำนวน 3 จุด ได้แก่ จุดตรวจตำบลทุ่งยาว จุดตรวจตำบลปะเหลียน และ จุดตรวจตำบลบ้านนา ช่วยเหลือ แบ่งปัน เพื่อสร้างสรรค์ให้เทศกาลปลอดอุบัติเหตุ ขับขี่ปลอดภัย

    ติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่
    Facebook : งดเหล้าใต้ล่าง
    ลิ้ง : https://www.facebook.com/southstopdrink7
    สถานที่ : ศูนย์ประสานงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคใต้ตอนล่าง
    ข่าว / ภาพ : สนง.ประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง / ปิยะนุช สุตตะโท

  • ภาคประชาชนจังหวัดตรัง จัดเวทีสาธารณะ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์กับความปลอดภัยและยั่งยืนของสังคม

    ภาคประชาชนจังหวัดตรัง จัดเวทีสาธารณะ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์กับความปลอดภัยและยั่งยืนของสังคม

    เครือข่ายองค์กรงดเหล้าจังหวัดตรัง เปิดเวทีเสวนา ค้าน พ.ร.บ.เปิดขายสุราเสรี 24 ชั่วโมง

    “ผลประโยชน์ได้ใคร นายทุนหรือประชาชน หวั่นกฎหมายไทยบทลงโทษบังคับใช้ไม่จริงจัง
    ในขณะที่ครอบครัวเหยื่อผู้สูญเสียจากสุรา ไม่เคยได้รับการเยียวยาและการดูแล

    ต้องทนทุกข์ระทม กับบาดแผลในใจจนถึงทุกวันนี้”

    เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2567 ณ ณ โรงแรมวัฒนา พาร์ค ถนน ห้วยยอด 19 ตำบล นาตาล่วง อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง โดย นางไพรัช วัฒนกุล ผู้อำนวยการเครือข่ายองค์กรงดเหล้าจังหวัดตรัง ร่วมกับเครือข่าย หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้ประกอบการจังหวัดตรัง ร่วมกิจกรรมเวทีสาธารณะ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์กับความปลอดภัยและยั่งยืนของสังคม มีผู้เข้าร่วมกว่า 40 คน

    ซึ่งกิจกรรมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างการรับรู้และร่วมมือกันปกป้อง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเพื่อรับฟังข้อเสนอ รวมถึงแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แนวนโยบายในการสร้างความตระหนักรู้ในเรื่อง พรบ.ควบคุม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

    ในกิจกรรมมีเวทีการเสวนาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กับความปลอดภัยและยั่งยืนของสังคม โดยมีผู้เข้าร่วมเวทีเสวนาคือ นางไพรัช วัฒนกุล ผู้อำนวยการเครือข่ายงดเหล้าจังหวัดตรัง นายชัยยา วีระกุล สาธารณสุขอำเภอนาโยงจังหวัดตรัง นางสาวฤทัย ก้งเส้ง เจ้าหน้าที่ปภ.จังหวัดตรัง นางสาวอมรรัตน์ ขาวปาน บริษัทยอดข้าวสุราทิพย์ ตัวแทนผู้ประกอบการ และนายสหศวรรษ หนูแม่น บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยทางถนนจังหวัดตรัง

    โดยในเวทีสาธารณะ พูดถึงประเด็นที่สุราต่างประเทศเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น และประเด็นที่ทางรัฐบาลแก้ไขกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้ความสำคัญกับพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กรณีในการแก้ไขขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภคเป็นหลัก และทางสาธารณสุขเสนอแนะในการปลดล็อคด้านสื่อโฆษณาแอลกอฮอล์เนื่องจากเด็กและเยาวชนสามารถเข้าถึงแอลกอฮอล์ได้เพิ่มมากขึ้น และประเด็นการควบคุมสถานที่ วัด , โรงเรียน ฯลฯ เกี่ยวกับการดื่มแอลกอฮอล์ , การเชื่อมโยงการทำงานกับทุกภาคส่วนในการร่วมกันลดอุบัติเหตุจากการเมาแล้วขับ , สะท้อนให้ทุกภาคส่วนได้รับทราบถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น , การควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ควรมีการกำหนดโทษมาตรการที่ชัดเจนและบังคับใช้อย่างเข้มแข็ง, สะท้อนให้รัฐบาลและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้รับรู้ถึงผลเสีย/ผลกระทบจากการใช้แอลกอฮอล์ในการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อทบทวนการดำเนินการดังกล่าว และช่วยทบทวนว่ากลุ่มใดที่ได้ผลประโยชน์ ตลอดจนเริ่มต้นจากการดูแลสื่อสารภายในสถาบันครอบครัว

    นายสหศวรรษ หนูแม่น บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยทางถนนจังหวัดตรั เปิดเผยว่าปัจจุบัน พบสถิติอุบัติเหตุในจังหวัดตรังมีมากขึ้น โดยสาเหตุหลักอันดับแรก เกิดจากเมาแล้วขับถึง 85% อันดับที่ 2 ไม่สวมหมวกกันน็อคและอันดับที่ 3 ขับรถเร็ว ซึ่งพบว่า ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่จะเป็นผู้นำครอบครัว 60 % โดยเกิดเหตุกับผู้ที่ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์มากที่สุด ทั้งนี้ หากพ.ร.บ.เพื่อที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ถ้าไม่อยากให้เกิดเหตุดังกล่าว ทุกคนต้องรณรงค์ชี้ให้เห็นว่า “อันตรายเมาแล้วตาย” นำเสนอสถานการณ์จริงให้มวลชนได้รับรู้

    นางไพรัช วัฒนกุล ผู้อำนวยการเครือข่ายองค์กรงดเหล้าจังหวัดตรัง แสดงความเห็นว่า เวทีเสวนาวันนี้ จากการที่เราพูดคุยกันนั้น ไม่ได้เห็นด้วยกับการเพิ่มเวลาขาย ซึ่งเวลาเดิมมันก็น่าจะพอสมควรอยู่แล้ว เนื่องจากพอจังหวัดที่เป็นต้นแบบที่มาเพิ่ม ซึ่งเป็นจังหวัดนำร่องจะรู้สึกว่าเกิดปัญหา ซึ่งพบว่ามีประเด็นปัญหาเนื่องจากคนเมาสุราเยอะ ในฐานะที่เราเป็นประชาชนชาวจังหวัดตรัง จึงอยากให้ทางรัฐบาลทบทวน พ.ร.บ. ในเรื่องของการกระตุ้นเศรษฐกิจว่าเอาสุรา มาเป็นประเด็นในการกระตุ้นเศรษฐกิจจริงไหม ผลลัพธ์กับผลเสียที่มันได้ที่เกิดกับ ประชาชนจริง ๆ มันใช่หรือเปล่า หรือผลประโยชน์ที่มันเกิดที่เขาต้องการที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ มันอยู่กับผลประโยชน์กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ของที่เป็นสส.ที่เขาเป็นที่ปรึกษา เพราะฉะนั้นเราคิดว่านักการเมืองที่ประชาชนเลือกไป ถ้าคิดว่าประชาธิปไตยมันมีจริง ลองมาฟังเสียงข้างล่างดูบ้าง ว่าแต่ละพื้นที่เขารู้สึกอย่างไร ซึ่งเขาไม่มีโอกาสพูดแต่เขาเลือกคุณไปเป็นตัวแทน แต่ที่เลือกมาเป็นตัวแทนเพื่อที่จะให้นำเสนอสิ่งดี ๆ แต่มา ณ วันนี้เราจะเปลี่ยน พ.ร.บ.ใหม่ ซึ่งในฐานะที่เรามองภาพรวม ของระดับประเทศว่ามันเป็นปัญหา และมันสร้างรอยร้าวให้กับในใจ เหมือนกับที่เกิดขึ้นกับนางรัชฐิรัชฎ์ ซุ่นสั้น ที่สูญเสียสามีไปกับเหตุการณ์ที่ คนเมาขับรถมาชนสามีของนางรัชฐิรัชฎ์จนเสียชีวิต แต่ยังโชคดีที่สามีของเขา ทำอาชีพราชการ แต่ในขณะที่อีก 4 ครอบครัว ไม่ได้รับความเยียวยา ไม่ได้รับความเป็นธรรม คนที่ชนคนตาย 5 ชีวิต รับโทษแค่ปีกว่าๆก็ออกมาใช้ชีวิตข้างนอกแล้ว แต่คนที่สูญเสียครอบครัว เขาจะมีความรู้สึกอย่างไรบ้าง นี่คือประเด็นที่อยากให้ทางรัฐบาลเอากลับไปแก้ไขทบทวน ว่าสิ่งที่คุณทำมันสุขและกระตุ้นจริงไหม แล้วกระตุ้นนั้นไปกระตุ้นกลุ่มไหน เราอยากให้มาช่วยในเรื่องของการช่วยเหลือสินค้าชุมชน เล่นเรื่องความสุขของประชาชน ที่จะสามารถช่วยเหลือชุมชนได้จริง ๆ ดีกว่าไหม นี่คือเสียงสะท้อนในเวทีการเสวนาในวันนี้ ซึ่งวันนี้พอมาได้ยินปริมาณการสูญเสียก็รู้สึกตกใจ ซึ่งไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนเลย ถือเป็นการจุดประกายที่จะเปล่งเสียงไปให้ทางผู้แทนหรือผู้บริหารประเทศหันกลับมามองประชาชน ขอฝากประเด็นนี้ ซึ่งคิดว่าถ้ามีการขยายเวลา จะทำให้เกิดปัญหาทั่วประเทศได้ ซึ่งตนเองในฐานะที่เป็นนักรณรงค์ไม่เห็นด้วย ขอให้รัฐบาลเอากลับไปทบทวนดูใหม่

    ในขณะที่ นางรัชฐิรัชฎ์ ซุ่นสั้น อายุ 48 ปี ผู้ประสานงานเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จ.ตรังและยังเป็นครอบครัวเหยื่อ ที่ถูกคนเมาแล้วขับรถชนสามีของตนเองเสียชีวิต ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ทุกวันนี้ได้เงินเดือนจากแฟน แค่สบายกายไม่ได้สบายใจ ในฐานะที่เป็นครอบครัวเหยื่อแล้วก็เป็นเคสที่โดนกระทบโดยตรงก็อยากจะฝากถึงในส่วนของ เราทั่วไปที่อยู่บนท้องถนน ถ้าให้พูดถึงว่าดื่มแล้วไม่ขับนั้นมันคงเป็นเพียงคำพูด แต่ถ้าคุณดื่มแล้วอยากให้คุณมีวุฒิภาวะ หรือจิตสำนึกที่จะ รับผิดชอบตัวเองรับผิดชอบสังคม อย่าคิดแต่ว่าเราจะกลับให้ถึงบ้านเพราะว่าเคส ของตนเองนั้น ซึ่งผู้ที่ก่อเหตุเมาแล้ววัดแอลกอฮอล์ได้ประมาณ 170 คือขับไปและชนไม่ได้สนใจว่าอะไรจะเกิดขึ้น และเกิดขึ้นแล้วซึ่งความรับผิดชอบของคน ก็ไม่มีเลยส่งผลให้ครอบครัว 5 ครอบครัว แต่ว่าอีก 5 ครอบครัวที่เหลืออยู่ก็ตายทั้งเป็น มันจะมีแผลมีผลกระทบในส่วนจิตใจและก็รายได้ ในส่วนเศรษฐกิจทุก ๆ อย่างมีผลกระทบต่อเนื่องหมดเลย เพราะฉะนั้นถ้าเราป้องกันได้คือดื่มไม่ขับจะดีที่สุด แต่ถ้าขับก็ต้องรู้ปริมาณในการที่จะประคองตัวเอง รับผิดชอบสังคมได้ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2560 ถ้าเข้าปีนี้ก็ระยะเวลามา 7 ปีแล้ว ผ่านมา 7 ปีแล้ว ในส่วนของความรับผิดชอบของผู้ที่กระทำคือรับโทษเฉพาะจ่ายค่าปรับ 3,400 บาท และจำคุก 4 ปีแต่จำคุกจริง ๆ ไม่ถึงก็ออกมาใช้ชีวิตปกติได้แล้ว และสังคมก็ลืมไปแล้ว แต่ครอบครัวที่โดนกระทำ เขายังต้องเผชิญอยู่กับความจริงการใช้ชีวิตการที่ต้องดิ้นรนและต้องต่อสู้ ในการที่จะมีชีวิตอยู่ ซึ่งตอนนี้ตัวเองเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวมา 7 ปีแล้ว ซึ่งตนเองมีลูกสาว 2 คนแล้ว เรียนจบมีงานทำกันหมดแล้ว ซึ่งครอบครัวเราก็ไม่ได้รับการเยียวยาแม้แต่สลึงเดียว ในส่วนของสภาพจิตใจตนเองไม่เคยลืมเลยตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ซึ่งปกติครอบครัวของเราจะประกอบไปด้วยพ่อแม่ลูก ซึ่งเมื่อลูกเติบโตแล้วก็ไปใช้ชีวิตของตนเอง เราเคยวางแผนไว้ว่าตนเองจะใช้ชีวิตอยู่กับสามีด้วยกันสองคน แต่ตอนนี้ใช้ชีวิตอยู่คนเดียวแต่ก็ เลี้ยงสัตว์เลี้ยงแมวไว้เป็นเพื่อน ทุกวันนี้ยังมีท้อแล้วก็คิดถึงสามีตนเอง อยู่ตลอด เหมือนคนที่กระทำจะไม่รู้หรอก แต่บาปตรงนี้จะต้องติดตัวเขาไปตลอดชีวิต และจากการที่มาเข้าร่วมการเสวนาในวันนี้ที่ทางรัฐบาลจะเปิดการขายสุราเสรี 24 ชั่วโมงนั้น เพื่ออ้างว่ากระตุ้นเศรษฐกิจ ตนเองรู้สึกว่า แต่ในส่วนของความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเขาไม่ได้มอง เพราะที่ผ่านมาถึงใช้พ.ร.บเดิมผลกระทบก็เยอะอยู่แล้ว แล้วการเยียวยาหรือว่าในส่วนของความรับผิดชอบก็ไม่ได้เต็มที่ ทุกคนก็ไม่ได้ต้องการเงิน แต่ในเมื่อเกิดขึ้นแล้ว การเยียวยาจะต้องรับผิดชอบให้แต่ละครอบครัว ซึ่งเคส 5 ศพ ยังไม่ได้รับการเยียวยาแม้แต่ครอบครัวเดียวในขณะที่ทางรัฐบาลไม่ได้เข้ามาดูแลอย่างจริงจัง ซึ่งทุกอย่างมันก็สิ้นสุดไปแล้ว ไม่ว่าคุณจะออกพ.ร.บ.มาเพิ่มหรือว่าเหมือนเดิมยังไง แต่ถ้ากฎหมายมีการเข้มงวดและใช้แบบจริงจัง คือ ปรับๆจริงจำคุกๆจริง โดยไม่มีข้อยกเว้น ไม่ควรที่จะลดโทษให้คุณได้กึ่งนึง แม้คุณจะรับสารภาพผิดก็ตาม เพราะความผิดของคุณคุณตั้งใจที่จะกระทำ อยากให้บังคับกฎหมายให้เข้ม แบบที่จับจริง ๆ และปรับจริง ๆ ไม่มีการลดโทษ

    ซึ่งเวทีสาธารณะครั้งนี้ จะมีการเก็บรวบรวมข้อมูล โดยนำความคิดเห็น ข้อสรุปในเวทีเสวนา นำไปยื่นให้กับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต จังหวัดตรังที่มี 3 ท่าน สำหรับการพิจารณา และเป็นกระบอกเสียงสำคัญที่จะสะท้อนให้เห็นถึงความหวัง ความห่วงใยของพี่น้อง ประชาชน ในประเด็น พ.ร.บ.เปิดขายสุราเสรี 24 ชั่วโมง

    ติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่
    Facebook : งดเหล้าใต้ล่าง
    ลิ้ง : https://www.facebook.com/southstopdrink7
    สถานที่ : ศูนย์ประสานงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคใต้ตอนล่าง
    ข่าว : NBT CONNEXT / ข่าวเด่นประเด็นดัง baan baan TV 73
    ภาพ : ศูนย์ประสานงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคใต้ตอนล่าง

  • เวทีเชิดชูเกียรติโครงการงดเหล้าเข้าพรรษา คนหัวใจหิน หัวใจเหล็ก หัวใจเพชร จังหวัดตรัง

    เวทีเชิดชูเกียรติโครงการงดเหล้าเข้าพรรษา คนหัวใจหิน หัวใจเหล็ก หัวใจเพชร จังหวัดตรัง

    เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2567 ณ องค์การบริหารส่วนตำบลนาข้าวเสีย อำเภอนาโยง จังหวัดตรังเครือข่ายองค์กรงดเหล้าจังหวัดตรัง ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนตำบลนาข้าวเสีย ชมรมคนหัวใจเพชรบ่าวงดเหล้า สาวพักตับตำบลนาข้าวเสีย จัดกิจกรรมเวที “เชิดชูเกียรติคนหัวใจหิน คนหัวใจเพชร จังหวัดตรัง” โดยได้รับเกียรติจาก นายอดุลย์ หมื่นลึก นายอำเภอนาโยง เป็นประธานในพิธี และนายชัยยา วีระกุล สาธารณสุขอำเภอนาโยง นางอารี ขวัญศรีสุทธิ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาข้าวเสีย ร่วมเป็นสักขีพยาน กล่าวชื่นชม ส่งมอบกำลังใจ แก่ผู้บวชใจในโครงการงดเหล้าเข้าพรรษา ประจำปี 2566

    เวที “เชิดชูเกียรติคนหัวใจหิน คนหัวใจเพชร จังหวัดตรัง” โครงการงดเหล้าเข้าพรรษา ในปีนี้มีผู้ได้รับเกียรติบัตรทั้งหมด 55 คน ได้แก่ บุคคลเหล้าต้นแบบ ได้แก่ สาวพักตับ 19 คน เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 6 คน คนหัวใจหิน หัวใจเหล็ก หัวใจเพชร และผู้เข้าร่วมหน้าใหม่ รวม 30 คน

    ในช่วงงดเหล้าเข้าพรรษาปี 25566 เครือข่ายงดเหล้าจังหวัดตรัง พร้อมภาคีเครือข่ายในพื้นที่ มีการส่งเสริมกิจกรรมช่วย ชม เชียร์ ตลอด 3 เดือน โดยมีกิจกรรมเด่นในด้านสร้างเสริมสร้างอาชีพให้ผู้เข้าร่วมโครงการ อาทิ บุคคลงดเหล้าต้นแบบร่วมกับสาวพักตับ ทำกิจกรรมผลิตน้ำสมุนไพรและปิ่นโตร้อยสายนำเสนอในกิจกรรมของพื้นที่อย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นซิกเนเจอร์ของชุมชน ร่วมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจคนงดเหล้าเข้าพรรษา และออกบูธทำกิจกรรมเสริมสร้างอาชีพอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นอาชีพเสริม สร้างรายได้แก้สมาชิกในกลุ่ม และครอบครัว


    ติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่
    Facebook : งดเหล้าใต้ล่าง
    ลิ้ง : https://www.facebook.com/southstopdrink7
    สถานที่ : ศูนย์ประสานงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคใต้ตอนล่าง
    ภาพ : อบต.นาข้าวเสีย อ.นาโยง จ.ตรัง
    ข่าว : ปิยะนุช สุุตตะโท / ธนบดี เจริญผล