Tag: จ.ชุมพร

  • 12 องค์กรหลักในตำบลนาขา อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร ร่วมขับเคลื่อนนโยบายปกป้องเด็กเยาวชนให้พ้นปัจจัยเสี่ยง

    12 องค์กรหลักในตำบลนาขา อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร ร่วมขับเคลื่อนนโยบายปกป้องเด็กเยาวชนให้พ้นปัจจัยเสี่ยง

         ปัจจุบันเด็กและเยาวชนไทยขณะนี้กําลังเผชิญกับความเสี่ยงมากมาย ซึ่งเกิดจากสังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมอันตรายที่ล้อมรอบตัวเด็ก เด็กและเยาวชนจำนวนมากซึมซับพฤติกรรมความรุนแรง สื่อลามกอนาจาร เสพยาเสพติด มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร อยู่ในแหล่งมั่วสุม และอื่นๆ จนพฤติกรรมเหล่านี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตร่วมสมัยของเด็กและเยาวชนที่เติบโตขึ้นทุกวัน 
         ศูนย์ประสานงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าจังหวัดชุมพร ได้มีการทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) สร้างภูมิคุ้มกันและปกป้องเด็กเยาวชนให้ปลอดภัยจากปัจจัยเสี่ยงในชุมชนและสถานศึกษา โดยในตำบลนาขา มี 12 หน่วยงานที่ร่วมลงชื่อและให้ความสนใจ แต่ภายใต้ยุคสมัยดิจิตอลที่มีการสื่อสารอย่างว่องไวและการเข้าถึงได้ง่ายโดยเฉพาะเด็กเยาวชน ซึ่งวุฒิภาวะของเด็กเยาวชนยังไม่มีความพร้อมและเสี่ยงต่อการตกเป็นเหยื่อได้ง่าย ทางองค์กรหน่วยงาน 12 องค์กรในตำบลนาขา อ.หลังสวน ซึ่งประกอบด้วย
    1.องค์การบริหารส่วนตำบลนาขา            2.โรงเรียนบ้านในเหมือง                     3.โรงเรียนบ้านหนองปลา 
    4.โรงเรียนวัดนพคุณ                            5.กำนัน/ ผู้ใหญ่บ้าน                          6.วัดดอนวาส         
    7.สถานีตำรวจภูธรบ้านในหูต                  8.รพ.สต นาขา                                 9.ชมรม อสม.ต.นาขา    
    10.ตัวแทนคณะกรรมสถานศึกษา           11.ตัวแทนผู้ประกอบการ ต.นาขา         12.สภาวัฒนธรรม ต.นาขา

    โดยองค์กรดังกล่าวจะร่วมมือกันสร้างภูมิคุ้มกันและจัดสภาพแวดล้อมรวมถึงการเฝ้าระวังในการปกป้องเด็กเยาวชนจากเหล้าบุหรี่ ยาเสพติด และปัจจัยเสียงใหม่ เช่น การพนัน และภัยจากสังคมออนไลน์

    นางสาวแสงนภา หลีรัตนะ ผู้ประสานงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าจังหวัดชุมพร
          ด้านนางสาวแสงนภา หลีรัตนะ ผู้ประสานงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าจังหวัดชุมพร ได้กล่าว การทำ MOU ครั้งนี้ทางหน่วยงานมีข้อตกลงร่วมกันดังนี้
              1.องค์กรด้านสถานศึกษาจะสร้างภูมิคุ้มกันและการเท่าทันจากเหล้า-บุหรี่และปัจจัยเสี่ยงอื่นทุกช่องทาง เช่นบูรณาการหลักสูตรใน 8 กลุ่มสาระวิซา หรือ กิจกรรมนักเรียน
              2.ร้านค้าและร้านอาหารจะไม่จำหน่าย เหล้า -บุหรี่ ให้เด็กเยาวชน ตามที่กฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัด โดยมีป้ายประชาสัมพันธ์อย่างชัดเจนหน้าร้าน
              3.ร่วมกันฝ้าระวังจุดเสี่ยง และพลิกเป็นพื้นที่สร้างสรรค์และปลอดภัย เช่นมีป้ายประชาสัมพันธ์ / มีไฟส่องสว่างเป็นต้น
              4.ร่วมกันเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงทั้ง ตัวเด็กเยาวชน / บุคลทั่วไป รวมถึงบุคลภายนอก ที่สุ่มเสี่ยงหรือมีพฤติกรรมต้องติดตามเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดและสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
              5.สนับสนุนกิจกรรมสร้างสรรค์และเปิดพื้นที่ให้เด็กเยาวชนนาขาได้แสดงออกและสืบสานรากเหง้าภูมิปัญญาของชาวตำบลนาขาเพื่อสร้างความภาคภูมิใจในความเป็นชาวตำบลนาขา
             ซึ่งจากสถานการณ์ปัจจุบันเด็กเยาวชนมีช่องทางในการเข้าถึงปัจจัยเสี่ยงได้ง่ายมากผ่านทางสื่อออนไลน์ จึงเป็นเรื่องเร่งที่จะต้องสร้างภูมิคุ้มกัน เท่าทัน และปกป้องเด็กเยาวชนให้ปลอดภัย ห่างไกลปัจจัยเสี่ยง เหล้า บุหรี่     สารเสพติด พนัน และสังคมออนไลน์ต่อไป
  • ชาวเขาค่าย เชิญร่วมแสดงพลังแห่งความรัก ผ่านกิจกรรม“วิ่งโอบเขา….กอดเรา ไหว้พระ วัดน้ำตกพระยืน”

    ชาวเขาค่าย เชิญร่วมแสดงพลังแห่งความรัก ผ่านกิจกรรม“วิ่งโอบเขา….กอดเรา ไหว้พระ วัดน้ำตกพระยืน”

        การวิ่งเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการลดน้ำหนัก บำรุงสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด ส่งเสริมกระบวนการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย ลดความเครียด และช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเพื่อป้องกันการเป็นโรคต่างๆ
        เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2566 ณ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเขาค่าย ต.เขาค่าย อ.สวี จ.ชุมพร ทีม อสม.ตำบลเขาค่าย ร่วมกับ เครือข่ายองค์กรงดเหล้าจังหวัดชุมพร/เครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคใต้ตอนบน และภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ได้ร่วมกันจัดกิจกรรม “วิ่งโอบเขา....กอดเรา ไหว้พระ วัดน้ำตกพระยืน” ครั้งที่ 2 เป็นการจัดกิจกรรมวิ่งเพื่อสุขภาพควบคู่กับการท่องเที่ยวชุมชน
        ด้านนายน้อย สวิงรัมย์ ประธาน อสม. กล่าวว่า การจัดกิจกรรมวิ่งในครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อให้พี่น้องในชุมชนทุกช่วงอายุได้ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ และเป็นการโปรโมท “วัดน้ำตกรพระยืน” ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวของชุมชนและเป็นที่สักการะหลวงปู่ทวด และเนื่องในสัปดาห์แห่งความรักจึงอยากให้มีการแสดงความรักอย่างสร้างสรรค์ ด้วยการชวนกันมาวิ่งแบบคู่รัก ไม่ว่าจะเป็นคู่รักแบบแม่/ลูก ยาย/หลาน เพื่อน พี่/น้อง หรือสามี/ภรรยา ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวยังสมทบทุนให้กับทางวัดเพื่อเป็นค่าน้ำ-ค่าไฟให้กับทางวัด
        นอกจากนี้เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนประเด็นการสร้างเสริมสุขภาพให้ห่างไกลจากแอลกอฮอล์และปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ และชักชวนนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในชุมชน เพื่อสร้างรายได้ให้กับชุมชน
  • วาเลนไทน์ปี 2566 ส่งต่อความรักจากพี่สู่น้องๆโรงเรียนบ้านทุ่งคาโตนด

    วาเลนไทน์ปี 2566 ส่งต่อความรักจากพี่สู่น้องๆโรงเรียนบ้านทุ่งคาโตนด

        14 กุมภาพันธ์ของทุกปี เป็นวันวาเลนไทน์หรือวันแห่งรักในประเทศตะวันตกที่ใครหลายคนรู้ และส่งมอบความรัก ดอกไม้ ของพิเศษให้กับคนรัก แต่สำหรับในวันนี้นักศึกษาสาขาการพัฒนาชุมชน มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานีได้ส่งมอบความรักให้กับน้องๆโรงเรียนบ้านทุ่งคาโตนด ชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 1-3 ซึ่งเป็นช่วงที่หลายๆคนให้คำนิยามว่า “ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิต” ทางนักศึกษาและเครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคใต้ตอนบน ได้เล็งเห็นว่า ช่วงวัยนี้จะเป็นช่วงวัยที่มีปัจจัยเสี่ยงหลายๆด้านเข้ามา จนทำให้เด็กบางคนไม่สามารถเรียนจนจบได้ ทางนักศึกษาจึงได้จัดกิจกรรม “สื่อรู้ ส่องรัก” เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลต่ออนาคตของเด็ก ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวอยู่ภายใต้โครงการโรงเรียนสกัดนักดื่มหน้าใหม่
        ด้านนายกันตณัช รัตนวิก ผู้ประสานงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคใต้ตอนบน ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับปัญหาและผลกระทบจากปัจจัยเสี่ยง(เหล้า/บุหรี่/กัญชา/กระท่อม/และสารเสพติดอื่นๆ) พร้อมทั้งยกเคสตัวอย่างที่เคยเกิดขึ้น ซึ่งเป็นเคสที่เกิดจากปัญหาของน้ำกระท่อมให้กับน้องๆฟัง เพื่อเป็นอุทาหรณ์สอนใจ      
    หลังจากนั้นนางสาวแสงนภา หลีรัตนะ (พี่สาว) ผู้ประสานงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าจังหวัดชุมพร ได้กล่าว ให้กำลังใจและแชร์ประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมาด้านการลดปัจจัยเสี่ยงในเด็กเยาวชนอีกด้วย
        ด้านนายพงศ์ศักดิ์ รักแก้ว แกนนำเยาวชน South Youth Ranger (SYR) ได้เข้ามาเป็นวิทยากรกระบวนการร่วมกับนักศึกษา และเป็นผู้ช่วยในการถ่ายทำสื่อวิดีโอกิจกรรมที่จัดขึ้นภายในโรงเรียนบ้านทุ่งคาโตนด

    ก่อนจบกิจกรรมได้มีการมอบของที่ระลึกให้กับผู้อำนวยการโรงเรียนและติดป้ายโรงเรียนสกัดนักดื่มหน้าใหม่ “ไม่ดื่ม ไม่สูบ ไม่เสพ”/ ป้ายซุปเปอร์แม่-พ่อ พอแล้วเหล้าเบียร์บริเวณหน้าโรงเรียนและห้องน้ำของโรงเรียนและถ่ายรูปร่วมกัน

  • นักวิ่งกว่า 500 ชีวิต ร่วมพิชิตประวัติศาสตร์ขุมเหมืองแห่งตำนาน ต.นาขา อ.หลังสวน จ.ชุมพร

    นักวิ่งกว่า 500 ชีวิต ร่วมพิชิตประวัติศาสตร์ขุมเหมืองแห่งตำนาน ต.นาขา อ.หลังสวน จ.ชุมพร

               เมื่อวันที่ 24 - 25 ธันวาคม 2565 ชุมชนศูนย์เรียนรู้งดเหล้าลดปัจจัยเสี่ยง หรือ ชุมชนสู้เหล้าจังหวัดชุมพร ร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่าย จัดกิจกรรมวิ่งเพื่อสุขภาพ โดยเชิญชวนคนในพื้นที่และบุคคลที่รักสุขภาพที่สนใจร่วมกิจกรรมวิ่งตามรอยประวัติศาสตร์การทำเหมืองแร่
    นางสาวแสงนภา หลีรัตนะ
                 โดยนางสาวแสงนภา หลีรัตนะ หรือว่า “พี่สาว” ได้เล่าว่า พื้นที่ที่จัดงานนี้เรียกว่า “บ้านในเหมือง” หรือ “เหมืองในหูด” ซึ่งมีประวัติศาสตร์การทำเหมืองแร่มานานกว่า 109 ปี และเป็นพื้นที่ที่มีความเจริญเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีชาวต่างชาติเข้ามาทำเหมืองแร่ จนถึงปีพศ. 2538 แร่ได้หมดลง ชาวบ้านจึงต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตจากการเป็นคนงานในเหมืองแร่สู่การเป็นเกษตรกร เมื่อวันเวลาผ่านไปชาวบ้านในพื้นที่กลัวว่า เด็กรุ่นหลังจะไม่ทราบประวัติความเป็นมาของบ้านเกิดตนเอง และไม่เกิดสำนึกรักถิ่นบ้านเกิด ทางชุมชนเห็นร่วมกันว่าอยากให้เด็กๆได้เรียนรู้ประวัติความเป็นมาของบ้านเกิดตนเอง โดยการฟื้นประวัติศาสตร์ขึ้นมาอีกครั้งผ่านการทำพิพิธภัณฑ์เหมืองแร่ โดยให้เห็นวิถีชีวิตของคนรุ่นปู่ย่า ตายาย สมัยยังมีการทำเหมืองแร่ในพื้นที่นี้อยู่ จึงมีการจัดงาน “วิ่งขุมเหมือง เมืองแห่งตำนาน” เพื่อระดมทุนในการสร้างพิพิธภัณฑ์เหมืองแร่ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ชุมชน การสร้างสุขภาพชุมชน และสร้างจิตสำนึกรักบ้านเกิด
    
                 ซึ่งในวันที่ 24 ธันวาคม 2565 นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เป็นประทานในพิธีเปิดงาน“วิ่งขุมเหมือง เมืองแห่งตำนาน” ซึ่งภายในงานจะมีบูธประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการทำเหมืองแร่ มีการสาธิตการ "ร่อนแร่"

    มีการสาธิตการ “ร่อนแร่”

    มีการแสดงล่องแม่ปิงและวอนลมฝากรัก จากชาวบ้านและนักศึกษาฝึกงานจาก ต.เขาค่าย อ.สวี จ.ชุมพร

    มีการแสดงจากนักศึกษาฝึกงานจาก ต.นาขา อ.หลังสวน จ.ชุมพร
    

    และกิจกรรมสร้างสรรค์จากเด็กและเยาวชนในพื้นที่

    นายนพพร อุสิทธิ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร
              และเมื่อเวลา 06.09 น. วันที่ 25 ธันวาคม 2565 นายนพพร อุสิทธิ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร เป็นประธานในพิธีปล่อยตัวนักวิ่ง กิจกรรม“วิ่งขุมเหมือง เมืองแห่งตำนาน” จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 1 โดยมีนักวิ่งเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 500 คน
              โดยการจัดงานครั้งนี้ช่วยให้คนในพื้นตื่นตัวและส่งต่อประวัติศาสตร์การทำเหมืองแร่ให้กับเด็กๆรุ่นหลัง การสร้างสุขภาพที่ดีผ่านกิจกรรมวิ่ง การสร้างงานสร้างอาชีพ และเสริมการท่องเที่ยวให้เกิดขึ้นกับคนในพื้นที่ในอนาคต และทำให้ชุมชนสู้เหล้า หรือศูนย์เรียนรู้งดเหล้าลดปัจจัยเสี่ยงเป็นที่รู้จักมากขึ้น
  • ศึกษาดูงานกับชุมชนตำบลนาขา อำเภอหลังสวน/ชุมชนตำบลเขาค่าย อ.สวี จังหวัดชุมพร ในเรื่องการพัฒนา “นักจัดการสุขภาพชุมชน”

    ศึกษาดูงานกับชุมชนตำบลนาขา อำเภอหลังสวน/ชุมชนตำบลเขาค่าย อ.สวี จังหวัดชุมพร ในเรื่องการพัฒนา “นักจัดการสุขภาพชุมชน”

    ชาวเครือข่ายชุมชนศูนย์เรียนรู้งดเหล้าลดปัจจัยเสี่ยงภาคใต้ตอนบน จากพื้นที่ชุมชนตำบลกระบี่น้อย ชุมชนตำบลบ้านเกาะ จังหวัดนครศรีธรรมราช ทีมประชาคมงดเหล้าจังหวัดสุราษฎร์ธานี จาก 3 ใน 16 ชุมชนศูนย์เรียนรู้ฯ ภาคใต้ตอนบน แล ในวันที่ 29 ตุลาคม 2565 ออกเดินทางมาแลกเปลี่ยน ศึกษาดูงานกับชุมชนตำบลนาขา อำเภอหลังสวน/ชุมชนตำบลเขาค่าย อ.สวี จังหวัดชุมพร ในเรื่องการพัฒนา “นักจัดการสุขภาพชุมชน” ของจังหวัดชุมพร

    โดยใช้ฐานชุมชนเป็นตัวตั้ง ร่วมคิด ร่วมออกแบบ ร่วมทำแผน ร่วมดำเนินการ จากทุกภาคส่วนในตำบล ยกระดับสู่ พชอ.ในพื้นที่ และร่วมแลกเปลี่ยนกับชุมชนบ้านพรุตาโรย ม.5 ตำบลบางแก้ว อำเภอละอุ่น จังหวัดระนอง เรื่องการขับเคลื่อนงานงดเหล้ายกระดับสู่ธรรมนูญสุขภาพชุมชน ที่บรรจุเรื่องงานงดเหล้าไปในธรรมนูญ ในการสร้างคนต้นแบบ สร้างงานบุญประเพณีปลอดเหล้า สร้างพื้นที่พัฒนาเยาวชนแกนนำของชุมชน และมาร่วมกิจกรรมงานวิ่งพักตับขยับปอดพิชิตภูเขาหญ้า จังหวัดระนองครั้งที่ 3 ซึ่งปีนี้ มีบรรยากาศแคมปิ้งในลานภูเขาหญ้าดึงดูนักท่องเที่ยวมาร่วมงานคับคั่ง วันที่ 30 ตุลาคม 2565 ออกเดินทางมายังชุมชนศูนย์เรียนรู้งดเหล้าลดปัจจัยเสี่ยงบ้านไทรทอง ม.8 ตำบลบางวัน อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา ร่วมแลกเปลี่ยนเรื่องการทำงานงดเหล้าเข้าพรรษาและการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์ด้วยนกเงือกถึง 7 ชนิดที่มีอยู่ในเขตชุมชน

    ซึ่งได้ชวนกลุ่มเยาวชนศึกษา สำรวจ ทำเส้นทางเดินป่าเพื่อการท่องเที่ยวสร้างรายได้ให้คนในชุมชน และในวันที่ 31 ตุลาคม 2565 เยี่ยมชุมชนศูนย์เรียนรู้งดเหล้าลดปัจจัยเสี่ยงบ้านสวนพริก ม.2 ตำบลตากแดด อำเภอเมือง จังหวัดพังงา การรณรงค์เข้าพรรษา จัดตั้งศูนย์เรียนรู้งดเหล้าฯ และขยับสู่การส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนสร้างตลาดชุมชน ที่เรียกว่า หลาดหลังเขา ที่ให้คนในชุมชนได้นำสินค้าพื้นบ้าน ผัก ผลไม้ อาหาร ผลิตภัณฑ์ต่างๆ มาขายให้กับนักท่องเที่ยว ซึ่งแนวคิดการสร้างความมั่นคงของชุมชนน่าสนใจ ที่จะสามารถสร้างความสุขให้คนในชุมชน

    โดยในการลงพื้นที่แลกเปลี่ยนศึกษาดูงานในครั้งนี้ ต้องขอขอบคุณประชาคมงดเหล้าจังหวัดชุมพร นครศรีธรรมราช ระนอง พังงา สุราษฎร์ธานี และจังหวัดกระบี่ รวมถึงแกนนำชุมชนทุกชุมชนที่ร่วมต้อนรับแลกเปลี่ยนกันอย่างเข้มข้น และร่วมรับประทานอาหารกันด้วยอย่างอบอุ่นมากๆ

  • คนชุมพรลุกขึ้นจับมือล้อมกรอบปกป้องเด็ก-เยาวชนจากปัจจัยเสี่ยง ในงานสมัชชาสุขภาพจังหวัด

    คนชุมพรลุกขึ้นจับมือล้อมกรอบปกป้องเด็ก-เยาวชนจากปัจจัยเสี่ยง ในงานสมัชชาสุขภาพจังหวัด

    วันที่ 26 ตุลาคม พศ. 2556 ในงานสมัชชาสุขภาพจังหวัดชุมพรได้มี การบันทึกข้อตกลงความร่วมมือสร้างภูมิคุ้มกันและการปกป้องเด็ก-เยาวชน ให้ปลอดภัยจากปัจจัยเสี่ยง ในชุมชนและสถานศึกษา จ.ชุมพร ณ. โรงแรมมรกตทวินชุมพร มีผู้เข้าร่วมไม่ต่ำกว่า 200 คน

    โดยในงานมีการประกาศนโยบายสุขภาพคนชุมพรใน 2 ประเด็นหลักคือ เกษตรปลอดสารอาหารปลอดภัย และ ปัจจัยเสี่ยง ภายใต้ชื่องาน “สมัชชาพลเมืองจังหวัดชุมพร ปี 2565 (สมัชชาสุขภาพจังหวัดชุมพร) “ชุมพรเมืองน่าอยู่บนฐานทรัพยากร”  ทั้งนี้ในช่วงบ่ายมีการจับมือกันของหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องด้านเด็ก-เยาวชนและ ปัจจัยเสี่ยงได้ เซ็นข้อตกลงในการสร้างภูมิคุ้มกันและปกป้องเด็กจากปัจจัยเสี่ยง

           นางเดือนเพ็ญ เคี่ยนบุ้น รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชุมพรกล่าวว่า

    จากข้อมูลรายงานสถานการณ์การบิโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รายจังหวัด พศ. 2554 จากศูนย์วิจัยปัญหาสุรา หรือ ศวส. ระบุว่า จ.ชุมพรมีดัชนีความเสี่ยงต่อปัญหาแอลกอฮอล์จังหวัด 0.532 หรือ อัตราการดื่มลำดับที่ 26 ของประเทศและ เป็นอันดับ 1 ในภาคใต้ รวมถึงความชุกของนักดื่มในประชากรวัยรุ่น อายุ 15-19 ปี ร้อยละ 15.0 หรืออันดับที่ 28 ของประเทศ ทำให้เครือข่ายงดเหล้าจ.ชุมพร ไม่นิ่งนอนใจและยกระดับการทำงานเชิงรุก ทั้งด้านการ สร้างภูมิคุมกันในเด็กเยาวชน / ชุมชน ร่วมถึงการจัดสภาพแวดล้อม ทั้งมิติการรณรงค์ การดำเนินนโยบาย รวมถึงการเชื่อมประสานกลไกกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง จนในปี พศ. 2564 รายงานสถานการณ์การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รายจังหวัด จากศูนย์วิจัยปัญหาสุรา หรือ ศวส. ระบุว่าจังหวัดชุมพรมีดัชนีความเสี่ยงต่อปัญหาแอลกอฮอล์ 0.397 หรือลำดับที่ 59 ของประเทศ อีกทั้งความชุกของนักดื่มอายุ 15-19 ปี ร้อยละ 6.2 ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบจะเห็นว่าช่วงเวลา 10 ปีจากการทำงานด้านการขับเคลื่อนงานงดเหล้าของจ.ชุมพร ลดสถิตการดื่มได้อย่างเป็นรูปธรรมแต่ในปัจจุบันสถานการณ์ยาเสพติดรุนแรงและมีผลต่อประชาชนเป็นอย่างมาก โดยภาครัฐให้ความสำคัญ และมี 3 นโยบายหลักคือ 1.ด้านการป้อมปราบและการเข้มงวดด้านกฏหมายที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด 2.ด้านการคัดกรองสำรวจ ทั้งบุคลากรภาครัฐและกลุ่มเป้าหมายเพื่อคัดแยกและส่งต่อ โดยเฉพาะกลุ่มมีภาวะเสี่ยงและ กลุ่มจิตเวช และ 3.ด้านการบำบัดรักษาและส่งต่อชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้มีตัวเลขเด็กเยาวชนที่โดยคดียาเสพติดซึ่งเป็นเด็กช่วงอายุ 12-15ปี เฉพาะปี พศ. 2565 จำนวน 64 คดี ซึ่งการใช้มาตการภาครัฐอยางเดียวคงไม่พอกับภาวะปัจจัยเสี่ยงต่อเด็กเยาวชนในปัจจุบันการจับมือของทุกภาคส่วนจึงมีความสำคัญยิ่ง

    นางแสงนภา หลีรัตนะ ประธานเครือข่ายสมัชชาสุขภาพและประชาคมงดเหล้าจังหวัดชุมพรกล่าวเพิ่มเติมว่า

    ภาคประชาสังคมได้ขับเคลื่อนงานด้านปัจจัยเสี่ยงมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พศ. 2553 ซึ่งในตอนนั้นเหล้า-บุหรี่เป็นเรื่องปกติแม้ยาเสพติดอื่นจะเป็นของต้องห้าม แต่การขับเคลื่อนงานมาอย่างต่อเนื่องสร้างพื้นที่ต้นแบบมี 33 ชุมชนต้นแบบและประกาศเป็นศูนย์เรียนรู้งดเหล้าลดปัจจัยเสี่ยง 17 ตำบล / มี 2 อำเภอเข้มข้นที่ขับเคลื่อนด้านนโยบายและอำนวยงานด้านปัจจัยเสี่ยงที่เป็นคู่ขนานกับภาคประชาสังคม / มี 24 โรงเรียนขยายโอกาสที่เน้นการสร้างภูมิคุ้มกันและการจัดสภาพแวดล้อมให้เด็ก-เยาวชนเท่าทันและปลอดภัยจากปัจจัยเสี่ยง / มี 59 ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่มีการเรียนรู้ที่สร้างสรรค์และเสริมภูมิคุ้มกันปัจจัยสี่ยงอย่างบูรณาการ / มี 42 งานบุญประเพณีปลอดภัย-ปลอดเหล้า ที่ประกาศเป็นนโยบายสาธารณะและจัดงานปลอดเหล้า / มี 157 คนต้นแบบที่ประกาศเลิกเหล้าไม่ต่ำกว่า 3 ปีหรือเรียกว่า “คนหัวใจเพชร” ซึ่งรูปธรรมเหล่านี้ชี้ให้เห็นฐานการขับเคลื่อนงานที่เป็นต้นแบบและพร้อมที่จะยกระดับขยายผลระดับจังหวัด แต่ในปัจจุบันยาเสพติดบางชนิดกลับถูกกฎหมาย ซึ่งเด็ก-เยาวชน ย่อมเข้าถึงได้ง่าย เช่น กัญชา / น้ำกระท่อมผสมยาแก้ไอ และรวมถึงเหล้า-บุหรี่

    ทางเครือข่ายคนชุมพรจึงจับมือบันทึกข้อตกลงครั้งนี้โดยมี 6ข้อตกลงร่วมดังนี้    

    1. ร่วมมือสร้างภูมิคุ้มกัน และจัดสภาพแวดล้อมให้เด็ก-เยาวชน มีความเท่าทันและปลอดภัยจากการคุกคามของ ปัจจัยเสี่ยงใหม่หรือยาเสพติดที่ถูกกฎหมาย เช่น เหล้า-บุหรี่-น้ำกระท่อม และ กัญชา รวมถึง ยาเสพติดที่ผิดกฎหมายทุกชนิด
    2. ร่วมสร้างพื้นที่ปลอดภัย / พื้นที่สร้างสรรค์และพื้นที่เรียนรู้ เพื่อปรับสภาพสิ่งแวดล้อมให้ปลอดภัย สู่ความเป็นต้นแบบ ทั้งโรงเรียน / ชุมชน / หน่วยงาน เพื่อขยายผลสู่การขับเคลื่อนเชิงนโยบายในอนาคต
    3. พื้นที่สำหรับเด็กและผู้ป่วยในชุมชนควรได้รับการปกป้องและมีมาตรการดูแลให้ปลอดภัย 100 % ใน 3 สถานที่ทุกชุมชน คือ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก / โรงเรียนระดับประถม และ สถานพยาบาล
    4. ควรมีการสร้างความเข้าใจและมีมาตรการสร้างการเข้าถึงปัจจัยเสี่ยงต่อเด็ก-เยาวชน ให้ยากขึ้น เช่น ร้านค้าในชุมชนไม่ขายเหล้า – บุหรี่ให้เด็ก-เยาวชนตามช่วงอายุที่กฎหมายกำหนด
    5. ร่วมมือกันพัฒนาและยกระดับ คุณภาพชีวิต / แนวปฎิบัติสู่ทางเลือกใหม่ๆในการปกป้องคุ้มครองภัยจากปัจจัยเสี่ยง รวมถึงสร้างทักษะผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 เพื่อการรับมือกับยุคออนไลน์ได้อย่างเท่าทัน
    6. ยกระดับงานวิชาการ SOCIAL LAB (PROCESS/LESSON/MODEL) เพื่อใช้พื้นที่ทดลองปฎิบัติและสรุปการเรียนรู้ สู่การขยายผลเชิงงานวิชาการในระดับสถาบันอุดมศึกษาระดับภูมิภาค

    โดยมีบุคลหน่วยงานองค์กรร่วมบันทึกข้อตกลง 10 องค์กรดังนี้

    1.รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร

    2.นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชุมพร

    3.ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร

    4.ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เขต 1

    5.รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เขต 2

    6.ผู้อำนวยการสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดชุมพร

    7.นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร

    8.รองคณะบดีฝ่ายงานวิจัยและการประกันสุขภาพการศึกษาคณะมนุษยศาสตร์ละสังคมศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฎสุราษฎร์ธานี

    9.รองประธานคณะกรรมการเขตสุขภาพเพื่อประชาชน เขต 11

    10.ประธานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าจังหวัดชุมพร

    ทั้งนี้การจับมือของหน่วยงานที่เห็นความสำคัญและร่วมกันปกป้องเด็ก-เยาวชนจากปัจจัยเสี่ยงจะเป็นมิติสำคัญของ ภาคความร่วมมือในการสร้างเมืองชุมพรแห่งความปลอดภัยและน่าอยู่ต่อไปนางแสงนภากล่าวทิ้งท้าย