Tag: ลอยกระทง

  • สคล. แนะ 7 วิธีลอยกระทงสร้างสุข พื้นที่ประกาศนโยบาย ปลอดแอลกอฮอล์ พลุ ดอกไม้ไฟ โคมลอย

    สคล. แนะ 7 วิธีลอยกระทงสร้างสุข พื้นที่ประกาศนโยบาย ปลอดแอลกอฮอล์ พลุ ดอกไม้ไฟ โคมลอย

    วันนี้(7 พ.ย.)นายวิษณุ ศรีทะวงศ์ ผู้จัดการแผนงานพัฒนานโยบายสาธารณะ สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) กล่าวว่า เทศกาลแห่งความสุขที่เต็มไปด้วยผู้คนที่มารวมตัวอยู่ร่วมกันจำนวนมาก มักจะมีความเสี่ยงจากปัจจัยเสี่ยงตามมา ทั้งผู้คนเบียดเสียด พลุดอกไม้ไฟ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การลวนลาม ทะเลาะวิวาท ต่อยตี และอุบัติเหตุบนท้องถนนจากการดื่มแล้วขับ ดังนั้น เป็นเรื่องที่แต่ละพื้นที่ต้องร่วมกันออกแบบ จัดการปัจจัยเสี่ยง ซึ่งบทเรียนจากการทำงานของเครือข่ายงดเหล้า และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กว่า 15 ปี สามารถจัดประเพณีลอยกระทงสร้างสุข

    ด้วย 7 วิธี ดังนี้ 1. ประกาศเป็นนโยบายจัดงานลอยกระทงปลอดเหล้า โดยร่วมมือจากทุกภาคส่วน จัดคณะทำงานดูแลควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่จัดงาน 2. ไม่ให้มีการเล่นประทัดยักษ์ โดยมีการประชาสัมพันธ์และมีคณะกรรมการออกตรวจตรา 3. ไม่ให้มีการปล่อยโคมลอย เสียงไฟไหม้ และกระทบกับสายการบิน และเกิดขยะ 4. ดูแลจุดเสี่ยงบริเวณท่าน้ำลอยกระทงไม่ให้ชำรุด หรือมีผู้คนหนาแน่น 5. ดูแลพื้นที่เสี่ยง เช่น ที่อับ ที่มืด ป้องกันเหตุล่วงละเมิทางเพศ ติดตั้งไฟส่องสว่าง ตรวจตราสถานบันเทิงไม่ให้เด็กต่ำกว่า 18 ปี ไปใช้บริการ 6. รณรงค์ใช้วัสดุธรรมชาติทำกระทง เพื่อลดขยะ และ 7. คงคุณค่าของประเพณี วัฒนธรรมอย่างแท้จริง

    นายวิษณุ กล่าวต่อว่า ผลจากการทำงานมากกว่า 15 ปี พบว่า ธรรมเนียมปฏิบัติของสังคมไทยในช่วงงานลอยกระทงเปลี่ยนแปลงไปมาก ประชาชนและนักท่องเที่ยวร้อยละ 80 เข้าใจวิถีการปฏิบัติตน เมื่อมาท่องเที่ยวในงานประเพณีหรือเทศกาลที่จัดขึ้นในพื้นที่สาธารณะ โดยจะไม่ถือหรือนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามา ซึ่งช่วยให้ดูแลความสงบ เรียบร้อยในงานได้ดีขึ้น โดยเฉพาะในการจัดงานใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเป็นจังหวัดท่องเที่ยว 99 แห่ง ทั่วประเทศ และ 33 จุดในกรุงเทพมหานคร ที่สคล.และ สสส. เข้าไปสนับสนุนการจัดงานปลอดเหล้า อย่างไรก็ตาม ต้องระวัง และจับตาการตลาดจากธุรกิจแอลกอฮอล์ที่จะเข้ามาส่งเสริมให้เกิดการดื่มการขายในพื้นที่จัดงานในรูปแบบลานเบียร์ เพราะสถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลาย ผู้คนอึดอัดมานาน จึงอาจเป็นช่องทางในการส่งเสริมการขาย ซึ่งจะตามมาด้วยอุบัติเหตุและอันตรายในพื้นที่ที่ขาดการควบคุมได้

    ด้าน ดร.นุชากร มาศฉมาดล รองนายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด กล่าวว่า ในการจัดงานเทศกาลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปีใหม่ สงกรานต์ หรือลอยกระทงของเทศบาลเมืองร้อยเอ็ดได้ร่วมกับ สสส. และสคล. ในการจัดงานบุญปลอดเหล้า ปลอดปัจจัยเสี่ยงอย่างเข้มข้นมาอย่างต่อเนื่องเป็นสิบๆ ปี อย่างเทศกาลลอยกระทง ปีนี้จะมีการจัดงาน 2 วันคือวันที่ 7- 8 พฤศจิกายน มีทั้งขบวนแห่ การประกวดธิดาสระเกศ มีดนตรีมหรสพได้ตามปกติแต่ และในวันที่ 8 พฤศจิกายนจะมีนายวรวุฒิ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มาเปิดงานให้ด้วยเนื่องจากการจัดงานของเราจะเน้นในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ทั้งนี้จะมีมาตรการคุมเข้มไม่ให้มีการจุดพลุ ปล่อยโคมลอย และห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในพื้นที่การจัดงาน บริเวณบึงพลาญชัยและบริเวณโดยรอบ นอกจากนี้ยังมีการจัดเจ้าหน้าที่กวดขันตรวจสอบพื้นที่เสี่ยงต่างๆ และบุคคลเสี่ยง เช่น หากพบว่ามีคนเมาครองสติไม่ได้ จะเชิญให้ออกไปสงบสติอารมณ์นอกพื้นที่จัดงาน เพื่อป้องกันปัญหาความรุนแรง ซึ่งที่ผ่านนมาก็จัดเช่นนี้และได้ผลดีประชาชนและนักท่องเที่ยวให้ความร่วมมือดี

  • เชียงใหม่แถลงข่าวงานยี่เป็ง 2565 “ความสุขแห่งสายน้ำ ปิงนครา มหานที”

    เชียงใหม่แถลงข่าวงานยี่เป็ง 2565 “ความสุขแห่งสายน้ำ ปิงนครา มหานที”

    เทศบาลนครเชียงใหม่ จัดพิธีแถลงข่าวงานประเพณีเดือนยี่เป็งเชียงใหม่ ประจำปี 2565 ณ บริเวณข่วงประตูท่าแพ ภายใต้แนวคิด “ความสุขแห่งสายน้ำ ปิงนครา มหานที”

    เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2565 สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) ภายใต้สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมแถลงข่าวสนับสนุนการจัดงานประเพณียี่เป็งเชียงใหม่ พ.ศ. 2565 “ความสุขแห่งสายน้ำ ปิงนครามหานที” ณ ข่วงประตูท่าแพ จ.เชียงใหม่

    งานลอยกระทงหรือยี่เป็งเชียงใหม่ พร้อมแล้วที่จะกลับมาจัดอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง โดยนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่, นายอัศนี บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ เปิดการแถลงข่าวถึงการจัดงานประเพณีเดือนยี่เป็งเชียงใหม่ ประจําปี 2565 โดยเชิญชวนร่วมสืบสานงานประเพณียี่เป็งเชียงใหม่ พบกับความอลังการของขบวนแห่กระทงใหญ่ การแสดงพลุเฉลิมพระเกียรติ การแสดงม่านน้ำท่ามกลางแสงสีแห่งรัตติกาล การประกวดโคมแขวนล้านนา และบรรยากาศความผูกพันของผู้คนสองฝั่งลำน้ำปิง ร่วมแอ่วงานประเพณีเดือนยี่เป็งได้ทั่วทุกมุมของเมืองเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 7-9 พฤศจิกายน 2565

    นายวิษณุ ศรีทะวงศ์ ผู้จัดการแผนนโยบายสาธารณะเพื่อควบคุมปัจจัยเสี่ยง สํานักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวถึง “การรณรงค์ส่งเสริมการงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในช่วง ประเพณีเดือนยี่เป็งเชียงใหม่” ที่ทาง สสส. ร่วมสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงค่านิยมงานบุญประเพณีปลอดเหล้าในเมืองเชียงใหม่ ตลอดจนมาตรการทางสังคม ที่ควรมุ่งสร้างบรรทัดฐานการใช้ชีวิตใหม่ หรือ New Social Norm กว่า 15 ปี ไม่ดื่มไม่ขาย ในพื้นที่สาธารณะในงานบุญประเพณี มองเห็นการจัดการในท้องถิ่นที่มีความเข้มแข็ง และสามารถลดการเกิดอุบัติเหตุ ลดประทัดยักษ์ รวมถึงการขยะและเพลิงไหม้จากเรื่องโคมลอย ที่ใช้ประเพณีวัฒนธรรมสร้างพื้นที่ปลอดภัย เข้ามาทดแทนและสืบสานวัฒนธรรมที่ดีงาม

    สำหรับในงานยี่เป็ง เชียงใหม่ งาน “ต๋ามผางปะตี้ดส่องฟ้าฮักษาเมือง” ที่ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า และ สสส. ยังดำเนินต่อเนื่องมาถึงปีที่ 11 แม้ว่าที่ผ่านมา เชียงใหม่จะถูกพักช่วงการจัดกิจกรรมจากสถานการณ์โควิด-19 คาดว่าในปีนี้จะกลับมายิ่งใหญ่ งานต๋ามผางปะตี้ดฯ ถือเป็นกิจกรรมที่ส่งต่อวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงามของเชียงใหม่ ที่เปลี่ยนค่านิยมเป็นพื้นที่ปลอดภัยจากเครื่องดื่มแอลกฮอล์ ประทัดยักษ์และลดการปล่อยโคมลอย ซึ่งในวันเปิดงานมีการเทศน์อาณิสงฆ์ผางปะตี้ด และฟ้อนเทียน กับช่างฟ้อนหลายร้อยคน ซึ่งล้วนมาจากการสอนและอบรมจากเครือข่ายชุมชนเมืองรักษ์เชียงใหม่ในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยการอบรมฟ้อนเล็บและฟ้อนเทียนนั้นได้เปิดรับสมัครผู้ที่สนใจร่วมสืบสานประเพณีร่วมกับชุมชนในเขตเมือง และสถาบันการศึกษาทั้งในและรอบนอกตัวเมือง นักท่องเที่ยวสามารถหาชมการฟ้อนเทียนกว่าร้อยคน ตั้งแต่ เวลา 18:00 น. วันที่ 7 พฤศจิกายน 2565 ณ ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ และชมความงามแสงไฟผางปะตี้ดได้ที่แจ่งรอบคูเมืองเชียงใหม่