Tag: จ.ศรีสะเกษ

  • จังหวัดศรีสะเกษร่วมกับคณะสงฆ์จัดทอดผ้าป่าสามัคคี ระดมทุนกองบุญสุขภาวะพระภิกษุสามเณรอาพาธ เพื่อสนับสนุนและช่วยเหลือพระภิกษุสามเณรที่อาพาธในจังหวัด

    จังหวัดศรีสะเกษร่วมกับคณะสงฆ์จัดทอดผ้าป่าสามัคคี ระดมทุนกองบุญสุขภาวะพระภิกษุสามเณรอาพาธ เพื่อสนับสนุนและช่วยเหลือพระภิกษุสามเณรที่อาพาธในจังหวัด

    7 มีนาคม 2565 ณ วัดมหาพุทธาราม พระอารามหลวง อำเภอเมืองศรีสะเกษ จัดทอดผ้าป่าสามัคคีตั้งทุนกองบุญสุขภาวะพระภิกษุสามเณรอาพาธเพื่อสนับสนุนและช่วยเหลือพระภิกษุสามเณรที่อาพาธในจังหวัดศรีสะเกษ โดยมี พระเทพวชิราภรณ์ รองเจ้าคณะภาค 10 ปฏิบัติศาสนกิจแทนเจ้าคณะภาค 10 เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และนายสำรวย เกษกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ประธานฝ่ายฆราวาสในพิธี การทอดผ้าป่า มีหัวหน้าส่วนราชการ คณะสงฆ์จังหวัดศรีสะเกษ และ พุทธศาสนิกชน เข้าร่วมพิธีทอดผ้าป่าสามัคคี

     

    ปัจจุบัน พระภิกษุสงฆ์ในจังหวัดศรีสะเกษมีอาการอาพาธร้อยละ 10.75 ส่วนใหญ่เป็นโรคปอดอุดกั้น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไตวายเรื้อรัง และ ปัญหาด้วยสุขภาวะ ทั้งพิการทุพพลภาพ ชราภาพมาก,อาพาธเรื้อรัง, และ อาพาธติดเตียง ที่สำคัญ ต้องประสบปัญหาด้านค่าใช้จ่ายระหว่างการรักษาพยาบาล ทั้งค่าเดินทาง ค่าภัตตาหารและอุปกรณ์การรักษาพยาบาลที่จำเป็นครั้งละเป็นจำนวนมาก อีกทั้งพระภิกษุสงฆ์ส่วนมากไม่มีสวัสดิการทางสังคม จึงทำให้การเข้ารับการรักษาพยาบาลไม่มีความต่อเนื่องและถูกวิธี  

    คณะสงฆ์จังหวัดศรีสะเกษตระหนักถึงปัญหาพระภิกษุสงฆ์อาพาธที่มีจำนวนมาก จึงจัดตั้ง “กองบุญสุขภาวะพระภิกษุสามเณรอาพาธจังหวัดศรีสะเกษ” เพื่อช่วยเหลือดูแลพระภิกษุสามเณรยามอาพาธ และ เพื่อให้เครือข่ายพระสงฆ์มีความมั่นคง ในการช่วยส่งเสริมการพัฒนาสังคมด้วยหลักพุทธธรรมให้แพร่หลาย ซึ่งกองบุญสุขภาวะพระภิกษุสามเณรฯ ได้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2565 ปัจจุบันมีพระภิกษุสงฆ์ในจังหวัดศรีสะเกษเป็นสมาชิกจำนวน 2,191 รูป  มรณภาพ 36 รูป คงเหลือพระภิกษุสงฆ์ที่เป็นสมาชิก 2,155 รูป ในจำนวนนี้ มีพระภิกษุสงฆ์อาพาธติดเตียงถึง 24 รูป

    พระเทพวชิราภรณ์ รองเจ้าคณะภาค 10 ได้ให้โอวาท โดยประเด็นสำคัญได้กล่าวชื่นชมคณะสงฆ์จังหวัดศรีสะเกษที่ได้จัดตั้งกองบุญพระภิกษุสามเณรอาพาธ ขึ้นเพื่อดูแลพระภิกษุสามเณร ในจังหวัดที่อาพาธและได้รับทุกขเวทนา ให้กำลังใจดีขึ้น  ได้ ยกเอาพุทธพจน์ “โย ภิกฺขเว มํ อุปฎฺฐเหยฺย โส คิลานํ อุปฏฺฐเหยฺย” โดยได้แปลเป็นภาษาไทยและได้อธิบายขยายความ ดังนี้ “ผู้ใดปรารถนาจะอุปัฏฐากเราตถาคต ผู้นั้นพึงรักษาภิกษุป่วยไข้”

    จากการระดมทุนทอดผ้าป่าสามัคคีครั้งนี้ มีผู้ร่วมอนุโมทนาและถวายปัจจัยร่วมกันทั้งสิ้น 2.2 ล้านบาท นำเข้ากองบุญฯ เพื่อดูแลช่วยเหลือบริบาลภิกษุสามเณรอาพาธ ในจังหวัดศรีสะเกษต่อไป

    ขอขอบคุณภาพข่าวจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ

  • ภาคอีสานตอนล่าง จัดถอดบทเรียนอำเภอบูรณาการความร่วมมือ หน่วยงานในการขับเคลื่อนประเด็นงดเหล้าลดปัจจัยเสี่ยง

    ภาคอีสานตอนล่าง จัดถอดบทเรียนอำเภอบูรณาการความร่วมมือ หน่วยงานในการขับเคลื่อนประเด็นงดเหล้าลดปัจจัยเสี่ยง

    15-16 มิถุนายน 65 เครือข่ายองค์กรงดเหล้า ภาคอีสานตอนล่าง จัดถอดบทเรียนอำเภอบูรณาการความร่วมมือ หน่วยงานในการขับเคลื่อนประเด็นงดเหล้าลดปัจจัยเสี่ยง โดยเชื่อมงานเด็กเยาวชน เน้นการปรับสภาพแวดล้อมผ่านมาตรการหรือธรรมนูญชุมชน ซึ่งเริ่มจากการเสวนาแลกเปลี่ยนบทเรียนการดำเนินงาน ผู้ร่วมเสวนาคือ

    1) ครูจันทร์ โต๊ะสิงห์ ปชค.ศรีสะเกษ ที่เชื่อว่าการแค่เอาเหล้าออกจากครอบครัวและชุมชน ก็สามารถแก้ปัญหาต่างๆของชุมชนได้ด้วยการสร้างพื้นที่รูปธรรม ภายใต้เชื่อว่าทำงานงดเหล้าทำคนเดียวไม่สำเร็จจึงเน้นการประสานทำงานกับกลไกหลักและภาคีในพื้นที่

    2)ดร.อนุพันธ์ สุวรรณพันธ์ มหาวิทยาลัยราชภัฎศรีสะเกษ และศูนย์พัฒนานโยบายสาธารณะ ในฐานะนักวิชาการพบว่าจากต้นทุนปฏิบัติการของพื้นที่ต้นแบบ แต่การขยายผลยังอยากและช้ามาก จึงวิเคราะห์ว่ากลไกที่จะสามารถยกระดับและขยายผลความรู้ของชุมชนเชิงระบบคือกลไกระดับอำเภอคือพชอ.และระดับจังหวัดหลักๆคือสสจ.ศรีสะเกษและคณะผู้บริหารจังหวัด จึงมีจัดทำข้อมูลนำเสนอต่อกรมการจังหวัด จนสามารถผลักดันนโยบาย 1 อำเภอ 1 งานบุญอัตลักษณ์ ทั้ง 22 อำเภอ 3) นายสมัย พูลทอง สาธารณสุขอำเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานี ที่ให้ความสำคัญกับข้อมูลสถานการณ์ต่างๆในพื้นที่ที่ส่งผลกระทบกับคุณภาพชีวิตของประชาชนแล้วนำมาสร้างการเรียนรู้กับกลไกในระดับอำเภอ ระดับตำบล ระดับชุมชนใช้กระบวนการธรรมนูญตำบล ธรรมนูญอำเภอ เป็นเครื่องมือสำคัญ

    จากนั้นแบ่งกลุ่มรายอำเภอ เพื่อประเมินผลการดำเนินงานด้วยผังใยแมงมุม และถอดบทเรียนโดยใช้เครื่องมือผีเสื้อความรู้ ทำให้เห็นคน เห็นงาน เห็นแนวทางไปต่อ หลังจากนี้หวังว่าผีเสื้อความรู้อำเภอบูรณาการงดเหล้าลดปัจจัยเสี่ยงจะไปกระพือปีก ในระดับพื้นที่โดยมีกลไก พชอ.เป็นแกนกลางในการเชื่อมร้อยและขับเคลื่อนงานต่อไป #พอช. #สคล. #สสส.