Tag: เครือข่ายพระสงฆ์

  • “ชีวิตนักบวช อุทิศตนเพื่อพระพุทธศาสนาตลอดชีวิต ยามชราเจ็บป่วยช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ใครจะดูแล”

    “ชีวิตนักบวช อุทิศตนเพื่อพระพุทธศาสนาตลอดชีวิต ยามชราเจ็บป่วยช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ใครจะดูแล”

    “นตฺถิ  โว  ภิกฺขเว  มาตา  นตฺถิ  ปิตา เย  โว อุปฏฺฐเหยฺยุํ  ตุเมฺห  เจ  ภิกฺขเว     อญฺญมญฺญํ  น  อุปฏฺฐหิสฺสถ  อถ  โกจรหิ  อุปฏฺฐหิสฺสติ  โย  ภิกฺขเว  มํ  อุปฏฺฐเหยฺย  โส  คิลานํ  อุปฏฺฐเหยฺย.ฯลฯ” ดูกรภิกษุทั้งหลาย! พวกเธอไม่มีมารดาบิดา ผู้ใดเล่าจะพึงพยาบาลพวกเธอ ถ้าพวกเธอจักไม่พยาบาลกันเอง ใครเล่าจักพยาบาล ดูกรภิกษุทั้งหลาย ! ผู้ใดจะพึงอุปัฏฐากเรา ผู้นั้นพึงพยาบาลภิกษุอาพาธเถิด ฯลฯ  ถ้าไม่มีอุปัชฌายะ อาจารย์ สัทธิวิการิก อันเตวาสิก ภิกษุผู้ร่วมอุปัชฌายะ  หรือภิกษุผู้ ร่วมอาจารย์ เป็นหน้าที่ของสงฆ์ที่ต้องพยาบาลจนตลอดชีวิต ถ้าไม่พยาบาล ต้องอาบัติทุกกฏ”

    เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2567  พระครูอมรชัยคุณ (หลวงตาแชร์ พเนจรพัฒนา) ประธานกองบุญสวัสดิการสังฆะเพื่อสังคมภาคอีสานล่าง ได้มอบหมายให้นายดิษณุลักษณ์ ไพฑูรย์ เป็นผู้แทน  นำถวายปัจจัย สวัสดิการรายเดือนในการดูแลพระสงฆ์ผู้อาพาธติดเตียง ของกองบุญสวัสดิการสังฆะเพื่อสังคม โดยมูลนิธิสังฆะเพื่อสังคม  แด่ พระครูวิมลสารวิสุทธิ์ (หลวงพ่อมหาแก่น) เจ้าอาวาสวัดหนองหัวแรด ต.แหลมทอง อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา พระครูวิมลสารวิสุทธิ์ (หลวงพ่อมหาแก่น) ปัจจุบัน อายุ 78 ปี 57 พรรษา  เป็นพระสงฆ์นักพัฒนา ที่เห็นความทุกข์ยากของชาวบ้านเป็นภาระกิจสำคัญที่จะต้องช่วยให้พ้นทุกข์ โดยได้ทำอะไรหลายอย่างให้กับคนหนองบุญมาก และชาวโลก เช่น ระบบน้ำดื่ม น้ำใช้มีโรงงานผลิตน้ำดื่มในวัด  ผลักดันสร้างถนนหนทาง  รณรงค์ลด ละ เลิก อบายมุข (เหล้า ยาเสพติด บุหรี่ การพนัน เป็นต้น)  ส่งเสริมการเกษตรแบบธรรมชาติ โดยภายในวัดมีถังน้ำหมักชีวภาพมากกว่า 200 ตัน เพื่อให้ชาวบ้านได้นำไปใช้ ส่งเสริมการศึกษาทั้งของฝ่ายคณะสงฆ์ และฝ่ายญาติโยมมีศูนย์เด็กก่อนเกณฑ์ในวัด มีรถรับส่งผู้ป่วยฉุกเฉิน

    ปัจจุบันท่านอาพาธด้วยโรค เส้นเลือดในสมองตีบ ส่งผลให้ร่างกายอ่อนแรง พูดไม่ได้ ต้องนอนป่วยติดเตียง มีเพียงยายยนต์  ฉลาดกลาง ผู้เป็นน้องสาวมาคอยดูแล อุปัฏฐากอุปัฏถัมภ์ นานๆทีจะมีพระสงฆ์มาดูแลพานั่งรถออกไปชมวิวภายในวัดที่ท่านได้สร้างไว้ตลอดอายุกาลพรรษาที่ผ่านมาเป็นครั้งคราว

    พอคุยกับยายยนต์ เรื่องการดูแลจากหน่วยงาน หรือคณะสงฆ์ด้วยกัน ยายก็มักจะตัดพ้อด้วยน้ำเสียงน้อยใจว่า “ตอนหลวงพ่อมีแรงอยู่ก็มีคนนั้นคนนี้มาขอให้ช่วย เอาเรื่องนั้นเรื่องนี้มาให้ท่านทำท่านช่วย แต่พอหลวงพ่อเป็นแบบนี้ ก็ไม่มีใครเข้ามาเลย” ยายพูดด้วยเสียงที่คลอ ๆ เล็กน้อย ฟังแล้วก็จุกในใจไปเหมือนกัน

    เสียงหนึ่งในใจ “ขนาดหลวงพ่อมหาแก่นทำอะไรให้ชาวบ้านมากมายขนาดนี้ ทั้งยังมีตำแหน่งทางการปกครองคณะสงฆ์ เมื่อยามเจ็บป่วย อาพาธ ก็ยังไม่มีใคร หรือระบบ อะไรมารองรับดูแลได้เลย ทิ้งให้ท่านอยู่ลำพังตามยถากรรม แล้วหลวงปู่ หลวงตา สูงอายุ ตามบ้านนอกจะอยู่กันอย่างไร”

    ถึงแม้ พุทธพจน์ที่ยกมาตั้งต้น เป็นคำบอก และคำสั่งของพระพุทธเจ้าถ้าสงฆ์ไม่ดูแลกันเอง ทางวินัยต้องปรับอาบัติทุกกฎทุกวัน ถึงเวลาหรือยังที่องค์กรสงฆ์จะต้องพัฒนาจัดระบบรองรับดูแลพระภิกษุอาพาธให้เป็นระบบนำไปสู่ความยั่งยืน สอดคล้องกับยุคสมัย ตามคำสั่งของพระพุทธเจ้า พระธรรมวินัย และนโยบายกุฏิชีวาภิบาล และกองบุญ/ทุนพระภิกษุอาพาธระดับจังหวัด ซึ่งปัจจุบันสามารถจัดตั้งเป็นต้นแบบแล้ว 10 จังหวัด


  • ภาคีสุขภาวะ แห่ร่วมงานมหกรรมบวชสร้างสุขอีสานบนฯ หนุนบทบาทพระสงฆ์กับการสร้างสังคมสุขภาวะ

    ภาคีสุขภาวะ แห่ร่วมงานมหกรรมบวชสร้างสุขอีสานบนฯ หนุนบทบาทพระสงฆ์กับการสร้างสังคมสุขภาวะ

    ภาคีด้านการพัฒนาสังคมสุขภาวะ แห่เข้าร่วมงานมหกรรมบวชสร้างสุขอีสานบน บทบาทพระสงฆ์กับการสร้างสังคมสุขภาวะ ณ วัดโพธิการาม อ.ปทุมรัตต์ จ.ร้อยเอ็ด เยี่ยมชมนิทรรศการการขับเคลื่อนงานของพระสงฆ์ พร้อมแลกเปลี่ยนเพื่อหนุนเสริม การเป็นกลไกสำคัญในการสร้างสังคมสุขภาวะ

    28 – 30 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา วัดโพธิการาม อ.ปทุมรัตต์ จ.ร้อยเอ็ด เครือข่ายพระสงฆ์นักพัฒนาภาคอีสานบน โดยมูลนิธิ สังฆะเพื่อสังคม ร่วมกับ สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดงาน “มหกรรมบวชสร้างสุขอีสานบน บทบาทพระสงฆ์กับการสร้างสังคมสุขภาวะ” ภายในงานได้มีเวที เสวนา บทบาทพระสงฆ์อีสานบนกับการสร้างสังคมสุขภาวะภายใต้การขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ รวมถึงมีเวทีย่อย ๆ ในประเด็นอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับประเด็นการสร้างสังคมสุขภาวะ ให้ภาคีผู้ที่สนใจเข้าร่วมเสวนาในประเด็นที่สนใจ หรือสามารถบูรณาการงานร่วมกันได้ อีกทั้ง ยังได้มีการจัดนิทรรศการ การขับเคลื่อนงานบวชสร้างสุข การขับเคลื่อนงานการพัฒนาสุขภาวะ ของพระสงฆ์ และหน่วยงานในเครือข่าย ร่วมเยี่ยมชมแลกเปลี่ยนด้วย

    พระครูโพธิวีรคุณ เจ้าคณะอำเภอปทุมรัตต์ วัดโพธิการาม จ.ร้อยเอ็ด เจ้าภาพในการจัดงานครั้งนี้ กล่าวว่า ตามที่มูลนิธิ สังฆะเพื่อสังคม เครือข่ายพระสงฆ์นักพัฒนาภาคอีสานบนร่วมกับสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าได้สนองงานคณะสงฆ์โดยดำเนินโครงการขยายผลเพื่อขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะบวชสร้างสุขภาคอีสานตอนบน ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โดยได้ดำเนินการ กิจกรรมถอดบทเรียนการจัดงานบวชสร้างสุขจากวัดต้นแบบในเครือข่ายภาคอีสานตอนบน โครงการนำร่องในจังหวัดขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม และร้อยเอ็ด จำนวน 10 วัด และจัดทำบันทึกข้อตกลง MOU การขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะการพัฒนาสุขภาวะเพื่อสังคมอีสานบน จึงได้กำหนดจัดเวทีมหกรรมงานบวชสร้างสุขอีสานบน บทบาทพระสงฆ์ กับการสร้างสังคมสุขภาวะ

    พระราชพรหมจริยคุณ เจ้าคณะจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวให้กำลังใจและอนุโมทนากับการจัดงานครั้งนี้ว่า

    การจัดโครงการบวชสร้างสุข การสร้างสังคมสุขภาวะ ทุกท่านได้ได้ทำถูกแล้ว ทำอย่างนี้ต่อไป เพื่อพุทธศาสนา เพื่อสังคม ความสุขนั้นพระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ว่า มี 2 อย่าง คือสุขทางกาย กับสุขทางใจ มันต้องมีด้วยกัน ถ้าเรามีทุกอย่างพร้อมแล้ว แต่ไม่มีความสุขทางใจก็ไปไม่รอด ก็จะสุขแค่ชั่วคราว ทุกอย่างล้วนมีความแปรผัน จะทำการสิ่งใดขอให้ดำเนินไปด้วยสติ อย่าประมาท สิ่งผิดพลาดคือบทเรียน ความพากเพียร คือ ลาภผล สิ่งเปลื้องทุกข์คือศีลทาน สิ่งดลบันดาลคือเงินตรา ยอดปรารถนา คือความสุข ขอให้พวกเราทำต่อ ทำอย่างนี้

    พระเทพวัชรวิสุทธิ์ เจ้าคณะจังหวัดหนองบัวลำพู ได้กล่าวในบางชวนบางตอน ของเวทีเสวนาว่า เราจะทำยังไงให้วัดนั้นเป็นจุดศูนย์รวมเหมือนในอดีตที่ผ่านมา ให้วัดเป็นแหล่งสรรพวิชา วัดเป็นแหล่งที่จะทำให้เกิดความสุข วัดวาอารามในอดีตกับวัดวาอารามในปัจจุบันค่อนข้างที่จะแตกต่างกันตามยุคตามสมัยแต่ทำยังไงจะให้วัดในปัจจุบันนี้เป็นศูนย์รวมเพื่อให้เกิดความผาสุกอย่างยั่งยืน ได้เหมือนในอดีต ความสุขหรือสังคมสุขภาวะ คำว่าสุขนั้น แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มด้วยกัน คือ สุขกาย กับสุขใจ ถ้าคนมีความสุขกาย ความสุขใจมันก็จะตามมา ถ้าตราบใดความสุขกายยังไม่เกิดขึ้นความสุขใจที่จะมีความอย่างยั่งยืนถาวรนั้นเป็นเรื่องยาก ความสำเร็จที่จะเกิดขึ้นนั้นต้องอาศัยหลาย ๆ ภาคส่วน มาร่วมไม้ร่วมมือกันทำ เอื้อเฟื้อ เอื้ออาทรกันระหว่างวัดกับชุมชน ก็จะเข้าในกรอบแนวคิดของ บวร (บ้านวัดราชการ)

    ตลอดระยะเวลาวันที่ 28 – 30 มิถุนายน ภาคีด้านสุขภาวะต่าง ๆ ชุมชน หน่วยงานราชการ ต่างเดินทางมาเข้าร่วมกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ให้ความสนใจ และอนุโมทนาในการทำงานของคณะสงฆ์ พร้อมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ สู่การบรูณาการงานร่วมกับ ต่อไป


    Refer

    ขอบคุณภาพข่าวจาก อดิศร อานนฺโท ราชจันทร์ และ Watsakate Thaitelecentre