เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2568 เครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคใต้ตอนบนชวน 12 หน่วยงาน 19 โรงเรียน สร้างความร่วมมือ ผนึกกำลังเป็นเครือข่ายโรงเรียนสกัดการเข้าถึงปัจจัยเสี่ยงภาคใต้ตอนบน เพื่อลงนามบันทึกข้อตกลงและขับเคลื่อนบันทึกข้อตกลง MOU “ธรรมนูญสถานศึกษาปลอดภัย-ปลอดเหล้า-ปลอดปัจจัยเสี่ยง” ซึ่งมีวัตถุประสงค์คือการกำหนดให้เรื่องสุขภาวะในโรงเรียน สถานศึกษา เป็นนโยบายและยุทธศาสตร์สำคัญของทุกองค์กรความร่วมมือร่วมกับภาคส่วนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยใช้ธรรมนูญสถานศึกษาปลอดภัย-ปลอดเหล้า-ปลอดปัจจัยเสี่ยง เป็นกรอบการดำเนินงานเพื่อส่งเสริม ป้องกัน และแก้ไข ปัญหา ปัจจัยเสี่ยง เหล้า บุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า น้ำกระท่อม สารเสพติด การพนันออนไลน์ อุบัติเหตุทางถนน และ อนามัยเจริญพันธุ์ในเด็กเยาวชน รวมถึงปฏิบัติการใน พื้นที่ 19 โรงเรียน 17 อำเภอ ของ 7 จังหวัด ภาคีเครือข่ายในเขตพื้นที่ 12 หน่วยงาน อาทิ คณะกรรมการเขตสุขภาพเพื่อประชาชน เขต 11 (กขป. 11) สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเขต 11 (สปสช. เขต 11) แผนงานสนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุจราจรระดับจังหวัด (สอจร.) สำนักงานสาธารณะสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี มูลนิธิรักษ์ไทยเครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพเยาวชน (ขสย.) คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี ศึกษาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานี สมาคมเพื่อนเยาวชนและพัฒนาสังคมภาคใต้ตอนบน และสถานศึกษาในเขต 11 จำนวน 19 แห่ง เพื่อยกระดับโรงเรียนต้นแบบ ร่วมกับหน่วยงานภาคีที่ให้ความร่วมมือสู่ความเป็นเครือข่ายระดับภาคณ ห้องประชุมสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานี

นายองอาจ พรหมมงคล ผู้ประสานงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคใต้ตอนบน อายุเฉลี่ยในการเริ่มดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของเยาวชนลดลงเหลือเพียง 13-15 ปี (ข้อมูลจากแบบสำรวจพฤติกรรม 63 โรงเรียนในจ.นครศรีธรรมราช) ขณะที่การเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในกลุ่มนักเรียนชั้นประถมศึกษา รวมถึงการพนันออนไลน์เพราะเข้าถึงได้ง่ายจากสมาร์ทโฟน รวมไปถึงปัจจุบันได้มีการแก้ไขพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฯ พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร และพ.ร.บ.การพนันฉบับแก้ไขเพิ่มเติม นโยบายเหล่านี้ที่อ้างว่าเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจนั้น ส่วนตัวกลับมองว่าเป็น นโยบายที่ส่งเสริมให้เกิด “เสรีปัจจัยเสี่ยง” เราจึงต้องร่วมกันป้องกัน และแก้ไข ปัญหา ปัจจัยเสี่ยงให้กับเด็กและเยาวชน

นายสมเกียรติ พิทักษ์กมลพร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ และผู้อำนวยการสำนักนโยบายสาธารณะภาคใต้ ได้กล่าวถึงความสำคัญที่ทุกภาคส่วนจำเป็นต้องดูแลเด็กและเยาวชนให้เกิดและเติบโตอย่างมีคุณภาพในขณะที่ประเทศไทยต้องเผชิญกับการเป็นสังคมสูงวัย ตลอดจนความสำคัญของการนำธรรมนูญสถานศึกษาไปใช้เพื่อร่วมกันสร้างข้อตกลงของสถานศึกษาและพื้นที่ให้มีสุขภาวะที่ดีต่อไป

นายจุฬา จันทพราหมณ์ ผู้อำนวยการ โรงเรียนวัดเขาขุนพนม ต.บ้านเกาะ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช โรงเรียนได้มีการทำงานขับเคลื่อนร่วมกับเครือข่ายในการประเด็นการลดปัจจัยเสี่ยงให้เด็กและเยาวชนอย่างต่อเนื่อง
โดยต่อจากนี้มีการยกระดับการขับเคลื่อนต่อด้วยการร่วมกับโรงเรียนจำนวน 5 โรงเรียน ที่ได้ลงนามในวันนี้ ด้วยจัดทำหลักสูตรอบรมสถานศึกษาปลอดภัย เพื่อพัฒนาเนื้อหา กระบวนการ รวมถึงการออกแบบกิจกรรมเพื่อนำไปสู่การทดลองใช้จริง ขยายผลการอบรมไปยังสถานศึกษาเป้าหมาย 5 แห่ง และพัฒนากลไกการขับเคลื่อนนโยบายในระดับสถานศึกษาตามบริบทที่แตกต่างกันเพื่อให้ทันสมัยและตอบสนองกันสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง
